ธนาคารออมสินเผยเศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มโตถึง 4.6% แรงหนุนจากส่งออก-ท่องเที่ยวขยายตัว

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสินได้คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2561 มีโอกาสขยายตัวได้ 4.6% ปรับเพิ่มจากปี 2560 ที่มีโอกาสขยายตัวได้ 4% จากแรงส่งของภาคการส่งออกและภาคบริการ ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเข้าสู่ระบบจำนวนมากเป็นแรงขับเคลื่อนการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศให้ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้ เศรษฐกิจและการค้าโลกขยายตัวต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักจากการบริโภคและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ส่งผลดีต่อการส่งออกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นตามความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โครงการพัฒนาท้องถิ่นของ อปท. โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ตามโครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนเพื่อความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก

นอกจากนี้ เศรษฐกิจยังมีแรงหนุนจากการลงทุนภาคเอกชนที่มีความชัดเจนมากขึ้นตามการขยายตัวของภาคการส่งออก ความต่อเนื่องของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และโครงการยกระดับเอสเอ็มอี ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดีการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปและอินเดีย

นายชาติชายกล่าวว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ได้แก่ การเคลื่อนย้ายเงินทุนและอัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มผันผวนจากทิศทางนโยบายเศรษฐกิจและการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก รายได้ภาคเกษตรมีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่รายได้ของแรงงานภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มทรงตัว ประกอบกับหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้กำลังซื้อขยายตัวได้ไม่มากนัก คุณภาพของหนี้ครัวเรือนและธุรกิจเอสเอ็มอีมีแนวโน้มด้อยลง ส่งผลให้ธนาคารระมัดระวังในการให้สินเชื่อมากขึ้น ความชัดเจนของการเลือกตั้งมีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนของภาคเอกชน ความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างประเทศทั้งกรณีวิกฤตคาบสมุทรเกาหลีเหนือและปัญหาตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี จากดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลในระดับสูง ซึ่งเป็นผลจากการเกินดุลการค้าและบริการที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นตามทิศทางราคาพลังงานโลก และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น อาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image