กระบวนท่า ‘ป๋า’ ล่อพยัคฆ์ ออกจากถ้ำ ขิงแก่ ย่อม ‘เผ็ด’

วิธีวิทยาการส่ง ส.ค.ส.ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผ่านประโยคเด็ด

“ตู่ใช้กองหนุนไปเกือบหมดแล้ว แทบจะไม่มีกองหนุนเหลืออยู่แล้ว”

ถือได้ว่าเป็น “สุดยอด” ของ “กระบวนท่า”

เพราะไม่เพียงแต่นำไปสู่การวิเคราะห์และ “ตีความ” ได้อย่างกว้างขวาง หากยังส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งในทางการเมือง

Advertisement

นี่ย่อมต่างไปจากกรณี “จ๊อกกี้”

กรณี “จ๊อกกี้” เมื่อเดือนสิงหาคม 2549 มีความแจ่มชัดว่าต้องการสื่ออะไรและเป้าหมายโดยตรงเป็นใคร ดำรงอยู่อย่างไร

แต่ในเดือนธันวาคม 2560 ดำเนินไปเหมือนกับ “คลุมเครือ”

Advertisement

กระนั้น ภายในความคลุมเครือ สลัวรางๆ นั้นก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการตีความและความเชื่ออันเป็นวาระอยู่ภายในกมลสันดาน

การนำเอายอดคำเท่ว่าด้วย “กองหนุน” ไปขยายผลในทางการเมืองจึงแตกต่างกัน ตัวอย่างเห็นได้ชัดจาก คสช.และจากพรรคประชาธิปัตย์

คสช.ถือว่าเป็น “คำชม”

พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า เป็นการเตือนเพื่อให้สำเหนียกรู้ว่า “กองหนุน” ที่เคยแวดล้อมเริ่มถอยห่างและหมดสิ้นลงเป็นลำดับ

ไม่มีใครตำหนิ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

ตรงกันข้าม หลังจาก ส.ค.ส. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปรากฏต่อสาธารณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออกมายอมรับว่า

“ผมเป็นนักการเมือง”

ขณะเดียวกัน ก็วิเคราะห์ออกมาว่า แนวทาง “ประชารัฐ” คือ แนวทางเพาะสร้างและเพิ่มปริมาณของ “กองหนุน” ให้มีมากยิ่งขึ้น

ที่มีการตีปลาหน้าไซเรื่อง “พรรคประชารัฐ” จึงเริ่มมีเค้า

ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะตีความคำว่า “กองหนุน” ออกมาอย่างไร ไม่ว่า คสช.จะประเมินบทบาทของคำว่า “กองหนุน” มากน้อยเพียงใด

ปัจจัยชี้ขาดอย่างแท้จริง อยู่ที่ “การปฏิบัติ”

บทบาทของพรรคประชาธิปัตย์เสมอเป็นเพียงขยายผลจาก ส.ค.ส.ว่าด้วย “กองหนุน” เป็นเหมือนสัญญาณเตือนจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

ขณะที่ คสช.ถือว่าเป็นการชี้ทางสว่างให้

การลงมือปฏิบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงประสานกันไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อขยายผลคำชมและการให้กำลังใจ

เห็นได้จากการชู “ประชารัฐ”

เห็นได้จากการออกมายอมรับว่า

“ผมเป็นนักการเมือง” พร้อมกับขยายว่าเป็นนักการเมืองที่เคยเป็นทหารมาก่อน

และแสดงความพร้อมต่อการเป็นนายกรัฐมนตรี “คนนอก”

บทบาทจาก ส.ค.ส.ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จึงเท่ากับเป็นการสร้างความกระจ่างและทำให้สังคมได้คำตอบอันแจ่มชัดจาก คสช.

กัปปิยโวหารจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จึงสะท้อนวุฒิภาวะและความลุ่มลึกอย่างยิ่งในทางการเมือง เข้าทำนองบทสรุปจากโบราณที่ว่า

ขิงแก่ย่อม “เผ็ด”

ไม่ว่าจะมองคำว่า “กองหนุน” เป็นเสมือนความเตือน ไม่ว่าจะมองคำว่า “กองหนุน” เป็นเสมือนชี้ให้เห็นภาวะถดถอย

แต่ผลก็คือ คสช.เริ่มเปิดโฉมออกมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image