…ช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีประเด็นให้ “รมณ์เสีย” ต้องเคลียร์กันเป็นระลอก มากมายหลายเรื่อง ปม “นาฬิกาหรู” รู้ๆ กันอยู่ “บิ๊กตู่” ไม่เกี่ยว อะไรกับเขา เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของ หยิบยืมใครมาใส่ แต่ไม่วายโดนลูกหลง ในฐานะ “ทั่นผู้นำ” จึงถูกกดดันลึกๆ
…ปมร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หมวดว่าด้วย “การเลือกตั้ง ส.ส.” ตะเภาเดียวกัน ทาง “กมธ.” เสียงข้างมาก กับ “สนช.” หรี่ตาคนละข้าง ร่วมด้วยช่วยกัน แก้ไขมาตรา 2 ให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศลงราชกิจจานุเบกษา 90 วัน ทำให้โปรแกรมเลือกตั้ง ทอดระยะเวลาออกทำศึกข้าม พ.ศ.ไปเป็นต้นปี 2562
…ดับฝัน “นักเลือกตั้ง” ไม่ใช่น้อยๆ พรรคเล็ก-พรรคใหญ่ เลยดาหน้าออกมารุมกินโต๊ะกันด้วยความเมามัน “เพื่อไทย” กับ “ประชาธิปัตย์” ยืนอยู่คนละขั้วโลกตลอดกาล ท่าทีตีกลับ แบบละครย้อนยุค “เห็นตรงกัน” เป็นครั้งแรก
…การขยับวันประกาศใช้ “กฎหมายลูก” 90 วัน เสมือนเผือกร้อน “บิ๊กตู่” ต้องแก้แหกันมือระวิง ทั้งๆ ที่เป็นผลงานของ “กมธ.” กับ “สนช.” ถูกหยิบมาปะปนระคนกัน ว่าเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะมีคน “กดปุ่ม”
…สาเหตุมาจาก มีการสุ่มสำรวจ กระแสนิยมทางลับ ถึงศึกเลือกตั้ง หากลงเอยตามโรดแมป คือ “กฎหมายลูก” 4 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ประกาศใช้เรียบร้อยทั้งหมดในเดือนมิถุนายน
…ตามขั้นตอนของการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างจะสะเด็ดน้ำ ประเทศไทย จะมีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยทางตรงจากพลเมือง ราวปลายเดือนพฤศจิกายน 2561 ผลปรากฏว่า “ผู้แทนเก่า” จะเป็นเชนคัมแบ๊ก เกือบร้อยละ 80
…เท่ากับว่า “คสช.” และ “รัฐบาลบิ๊กตู่” แย่เลยซิเนี่ย ทั้งๆ ที่ ถมนโยบายไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว คิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จจนล้นเหลือ แถมรัฐธรรมนูญ ก็เล่นแร่แปรธาตุ คุมกำเนิดพรรคใหญ่ ไม่ให้เหลิงรมย์ขนาดนี้แล้ว
…แต่สุดท้ายแล้ว กลายเป็นว่า หลังเลือกตั้ง “ประชาธิปัตย์” กับ “เพื่อไทย” ยังคงเหนียวแน่นยึดหัวหาด เสียงข้างมาก ตามสถิติ “ส.ส.เก่า” ส่วนใหญ่ จะได้รับเลือกตั้งเข้าสภามากกว่า “หน้าใหม่”
…ประเด็นมันมีอยู่ว่า การเมืองมันลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ “ทุกสรรพสิ่ง” หลังเลือกตั้งใหญ่ เกิดโลงแตก “พรรคเพื่อไทย” จับขั้วกับ “ประชาธิปัตย์” ดึงพรรค ขนาดกลาง ซึ่งเวลานี้ ตกที่นั่งเดียวกัน “เงินหมด ชื่อเสียงหาย ชีวิตเริ่มลำบาก” มาฟอร์มรัฐบาลด้วยกัน
…“พรรค ส.ว.250 เสียง” กับพรรคจิ๊บจ๊อย ที่เป็นนอมินี ก็ต้องแปรสภาพไปเป็นฝ่ายค้าน หลายกรรมหลายวาระ ที่ “ส.ว.” จะไม่มีอำนาจเข้าประชุมร่วม “รัฐสภา” ตามรัฐธรรมนูญ “ศูนย์อำนาจ” จะตกไปอยู่ในกำมือของ “นักการเมือง” อีกรอบ
…ด้วยเงื่อนดังกล่าว “นักเลือกตั้ง” จึงประเมินว่า เป็นมรรคผลให้ “กุนซือ” สะกิดสีข้างให้เกิดการเตะถ่วงเวลา เลื่อนโปรแกรมเลือกตั้งออกไปเป็นต้นปีหน้า 3 เดือนยังดี เพื่อหาทางแก้เกมกันใหม่
พลุน้ำแข็ง
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่