เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ศาลแขวงปทุมวัน ถ.พระราม 4 พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้นำตัวผู้ต้องหา 28 ราย ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 และกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จากการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ที่จัดกิจกรรมรวมพลประชาชนคนอยากเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา บริเวณสกายวอล์คแยกปทุมวัน ใกล้ห้างสรรพสินค้า MBK มายื่นคำร้องผัดฟ้องโดยผู้ต้องหาทั้ง 28 รายให้การปฏิเสธ ต่อมาศาลพิจารณาแล้วให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน เนื่องจากไม่มีการยื่นคำร้องฝากขัง
ขณะที่ผู้ต้องหา 2 ราย คือนายนพพร นามเชียงใต้ และนายนพเก้า คงสุวรรณ ให้การรับสารภาพ พนักงานอัยการศาลแขวงปทุมวันจึงได้ยื่นฟ้องทั้งสองด้วยวาจาเป็นจำเลยต่อศาลแขวงปทุมวัน ฐานฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 และกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 อย่างไรก็ตาม ศาลมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติดำเนินการสืบเสาะประวัติการศึกษา ครอบครัว ของจำเลยทั้งสอง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาพิพากษาคดี โดยนัดฟังคำพิพากษาจำเลยทั้งสองในวันที่ 8 มีนาคมนี้
ต่อมาเมื่อเวลา16.30น.นาย ศุภวัส ทักษิณ ทนายความสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ หรือ สกสส.ทนายความของผู้ต้องหาส่วนที่ถูกนำมาผัดฟ้องที่ศาลเเขวงปทุมวันกล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวันมายื่นคำร้องขอผัดฟ้องที่ศาลเเขวงปทุมวัน ซึ่งศาลอนุญาตให้มีการผลัดฟ้อง พร้อมกับปล่อยตัว ประชาชน 28 คนในนามกลุ่ม MBK 39 กลับบ้านโดยไม่มีเงื่อนไขในการควบคุมตัว ซึ่งการผัดฟ้องนี้เป็นขั้นตอนข้อขัดข้องที่พนักงานสอบสวนไม่สามารถทำสำนวนส่งอัยการฟ้องได้ทัน ตามกระบวนการตาม พ.ร.บ. วิธีพิจารณาความศาลแขวง กรณีพนักงานสอบสวนส่งตัวฟ้องไม่ทันภายใน 48 ชั่วโมง จึงต้องการทำการผัดฟ้อง จึงไม่มีการฝากขัง เนื่องจากผู้ต้องหามามอบตัวไม่มีการถูกจับกุมคุมขังทำให้ผู้ต้องหาไม่ต้องมารายงานตัวที่ศาลเหมือนกรณีที่ถูกฝากขัง ส่วนวันนี้ทราบว่านอกจากผู้ต้องหา28คนที่ถูกผัดฟ้องในวันนี้เเล้วยังมีผู้ต้องหาอีก2คนในคดีที่ให้การรับสารภาพซึ่งศาลก็นัดฟังคำพิพากษาในวันที่8มีนาคม
