นายสำมิตร สกุลวิระ ประธานสายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อธุรกิจปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5% โดยคาดว่าจะมียอดอนุมัติใหม่ 33,500 ล้านบาท ทำให้จากสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 48,000-50,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ 46,000 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ธนาคารได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบและการทำงานเพื่อตอบความต้องการของลูกค้า เน้นเจาะกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในทุกเซกเมนต์ ซึ่งภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องจากธนาคารพาณิชย์เริ่มกลับมาให้ความสำคัญในสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวทำให้รายได้ของประชาชนเริ่มปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงบน แนวโน้มดอกเบี้ยในตลาดการเงินยังอยู่ในระดับต่ำ และการเร่งประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลบวกต่อการกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่รอบข้างของโครงการ
ส่วนกลุ่มธุรกิจธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) มุ่งขยายธุรกิจไปยังลูกค้ากลุ่มเดิม เช่น ธุรกิจอพาร์ตเม้นต์และโรงแรม ธุรกิจขนส่ง พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม เครื่องจักรและวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งจะขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง (high net worth) ในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร โดยมุ่งให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มคนดังกล่าวที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจและเจ้าของกิจการให้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่างยั่งยืน และจะพัฒนาแพลตฟอร์ม ไฟแนนเชียล โซลูชั่น เอ็กซ์เพิร์ท ทั้งบุคลากร ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ครอบคลุมความต้องการทางธุรกิจของลูกค้า นำเสนอเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการและสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับกิจการ
นายสำมิตร กล่าวว่า ด้านคุณภาพสินเชื่อจะควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อธุรกิจต่อสินเชื่อรวมของธนาคารปีนี้ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 10% จากปีที่ผ่านมาที่ 13.7% โดยหนี้เสียที่มีอยู่จะเร่งจัดการโดยเร็ว ขระที่สินเชื่อใหม่จะปล่อยอย่างระมัดระวังและติดตามลูกค้าใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กลายเป็นหนี้เสีย
