แม้นิดาโพลคะแนนความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนำโด่งถึงร้อยละ 38.64 แต่คะ แนนจาก “ทวิตเตอร์ โพล”คะแนนพรรคอนาคตใหม่ซึ่งก็หมายถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็นำโด่งถึงร้อยละ 56
ทั้งๆ ที่เพิ่งจดแจ้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม
ทั้งๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงฝีมือและความสามารถมาตั้งรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ข้อสำคัญที่ปรากฎผ่าน”นิด้าโพล”คะแนนและความนิยมของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แห่งพรรคอนาคตใหม่ก็ไม่ขี้เหร่
นี่คือ “กระแส” นี่คือ “แนวโน้ม”ทางการเมือง
ระหว่าง “นิด้าโพล” กับ “ทวิตเตอร์ โพล” อาจเป็นคนละพื้นที่แต่ก็สะท้อนสภาพความเป็นจริงเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
“นิด้าโพล” อยู่ในพื้นที่”เก่า”ทางการเมือง
“ทวิตเตอร์ โพล” สัมพันธ์กับพื้นที่ “ใหม่”ในทางการเมือง เป็นพื้นที่ของโซเชียล มีเดีย เป็นเงาสะท้อนของประชากรซึ่งมีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือ
ความหมายอย่างตรงตัวก็คือ พื้นที่ของคนรุ่นใหม่ พื้นที่ของคนชั้นกลางในเมืองใหญ่อย่างที่เรียกว่า “มหานคร”
นั่นก็ตรงกับ “ยุทธศาสตร์” ของพรรคอนาคตใหม่
เห็นได้จากพรรคอนาคตใหม่เปิดตัวผ่านสื่อใหม่ ผ่านโลกออนไลน์ แล้วค่อยๆ รุกคืบเข้าไปในพื้นที่ของสื่อเก่าอย่างหนังสือพิมพ์อย่างโทรทัศน์
สัมผัสได้ตั้งแต่แคมเปญ “ช่วยธนาธรตั้งชื่อพรรค” กระทั่งนำโด่งใน “ทวิตเตอร์โพล”
จาก “สมาร์ทโฟน โพล” ก็จะเข้าไปยึดครองวิถี “โพลเก่า”
ยิ่งกว่านั้น หากหยั่งลงไปภายในกระบวนการทำงานของโพลอย่าง “นิด้า” ที่ผูกติดอยู่กับคสช. ผูกติดอยู่กับระบบราชการ
ความโปร่งใสยิ่งแตกต่างไปจาก”ทวิตเตอร์โพล”
กรณีอื้อฉาวที่อดีตผู้อำนวยการสำนักนิดาโพลเคยออกมาโวยวายย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่าน่าเชื่อถือมากเพียงใด ตรงนี้ยิ่งทำให้สปอตไลต์ฉายจับ “ทวิตเตอร์โพล” มากยิ่งขึ้น
นี่คือ การต่อสู้ทางการเมืองใน”พื้นที่”ใหม่ ผ่านสื่อใหม่
