‘เราจะเป็นตำรวจแบบเป็ดๆหรือ’ คำถามจากการแต่งตั้ง’60 สีกากีชีช้ำ-หน่วยบอบช้ำ !?

ในการแต่งตั้งโยกย้ายเหล่าสีกากี ทุกวาระมีทั้งผู้สมหวัง และผู้ผิดหวัง อีกด้าน มีทั้งเลือกวางคนกับงาน ถูกฝา ถูกตัว บ้างผิดฝา ผิดตัว ก็แต่งตั้งโยกย้ายรายชื่อคราวละมากกว่าครึ่งหมื่น มันคงต้องมีหลุดรอดสายตา จับปลาใส่ผิดน้ำกันบ้าง?!

การแต่งตั้งตำรวจไทยวาระประจำปี 2560 ในระดับ “นายตำรวจสัญญาบัตร” ตำแหน่งตั้งแต่สารวัตร ขึ้นไปถึงรองผู้บังคับการ(รองผบก.) ที่จนวันนี้ไม่อาจใช้คำว่าเสร็จสมบูรณ์ ก็เช่นกัน!!

บางคนคนทำงาน ไม่ได้ย้าย ไม่ได้ขยับ มีแต่โอกาสได้ทำงาน แต่ไม่มีโอกาสรับรางวัลเป็นความก้าวหน้า

เห็นชัดก็ตัวอย่างรองผู้กำกับการ ทำงานด้านสืบสวน สังกัดภูธรจังหวัดนราธิวาส สุดปลายด้ามขวาน ในพื้นที่เสี่ยงภัยก่อความไม่สงบ “พ.ต.ท.พรชัย สุวรรณวงศ์” คนนี้ ทำงานดีมีรางวัลการันตี สืบสวน จับกุมสารพัดคดี ทุกโอกาสที่ตำรวจไทยประกาศเกียรติคุณให้ข้าราชการตำรวจผลงานเลิศ นายตำรวจผลงานเด่นคนนี้ มีชื่อเข้าตา รับโล่ห์รางวัลทุกครั้งไป จนประกาศนียบัตรเชิดชูล้นฝาบ้าน รับรางวัลทรงเกียรติจากมือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกคน แต่ครั้นถึงวาระแต่งตั้งมีตำแหน่งผู้กำกับการว่าง นายกลับมองไม่เห็น!?

วาระแล้ววาระเล่า เฝ้าเก้าอี้รองผู้กำกับการ(รองผกก.) ไม่ได้ขยับสูงขึ้นเพิ่มดาวบนบ่า เป็นผู้กำกับการ(ผกก.)กับเขาสักที

Advertisement

โครงสร้างหน่วยงานยุบๆ เลิกๆ แยก ยุบกองบัญชาการ มี หรือ โละ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) ไม่มีผลอะไร ตอนตั้งหน่วย ศชต. สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เหตุผลเพื่อความคล่อง กระชับ ในการบริหารบัญชาการ พอคราวจะยุบโละเอาอัตราของหน่วยไปตั้งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวแทน ก็ยกเหตุผลน่าฟังเพื่อแก้ปัญหาแต่งตั้งโยกย้ายลำบาก ติดขัดข้ามหน่วยกองบัญชาการ ทำให้ลูกน้องขาดขวัญกำลังใจ และเหนื่อยล้า ยุบกลับรวบกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เสีย การโยกย้ายเลื่อนขยับทำง่ายขึ้น แต่นี่สะท้อนหรือไม่ ผลออกมา ยุบ หรือ ไม่ยุบหน่วย ไม่มีผล ปัญหาแต่งตั้งตำรวจไทยไม่ใช่ที่โครงสร้างหน่วย แต่เป็นเรื่องการใช้อำนาจ!

ผลงานการันตีฝีมือคุณค่าของคน แต่ในวงการนี้ผลงานไม่ได้การันตีความก้าวหน้าเสมอไป !!

ยกตัวอย่างมาเพียงหนึ่งจากหลายๆกรณี ที่สีกากี ชีช้ำ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายพรรค์นี้

Advertisement

ทว่าคนชีช้ำ ไม่เท่าองค์กรบอบช้ำเหตุเพราะการจัดสรรวางกำลังคนกับงานในหน้าที่ ไม่เหมาะสมลงตัว ทำนองเอาจิตกรเอก ไปคำนวณสูตรทางดาราศาสตร์ เอานักเคมีไปสร้างตึก ทำนองเสียดายคน เสียดายของ

มีเสียงสะท้อนจาก อีกหนึ่งเสียงสีกากี ที่สะท้อนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายอย่างน่าสนใจ

พ.ต.ต.สุริยา แป้นเกิด นายตำรวจตำแหน่งสารวัตร สอบสวนสภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และปฏิบัติงานเป็นสาวัตรสอบสวน สภ.ยะลา จ.ยะลา พื้นที่คดีก่อความไม่สงบ เขียนถึง “งานสอบสวน ”  การแต่งตั้งและตำรวจเป็ดๆ  ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Suriya pankerd police อย่างน่าสนใจ มีข้าราชการตำรวจจำนวนไม่น้อย หยิบยกไปขยายความ ส่งต่อ พูดถึง

มติชนออนไลน์ ยกมานำเสนอ ดังนี้

“เล่าเรื่อง เกิดอะไรขึ้นกับงานสอบสวน
วิกฤตงานสอบสวน ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กับคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย
คนไม่ชำนาญงานสอบสวน ไม่ถนัดงานสอบสวน ถูกเตะถูกถีบ แต่งตั้งมาเป็นหัวหน้างานสอบสวน

เพื่อนผมบ่น รองผกก.สอบสวน หัวหน้างานสอบสวน มาใหม่ ไม่เป็นงานสอบสวน ถูกย้ายมาจากงานสืบฯ ผกก. ก็ไม่เป็นงานสอบสวน โตจากงานสืบฯ ทั้งสองคนก็ยอมรับไม่ถนัดงานสอบสวน แล้วยังแถม สารวัตรสอบสวนมาใหม่ถูกย้ายมาจากงานสืบ ไม่มีใบประกาศวิชาชีพสอบสวน เข้าเวรไม่ได้

ส่วนเพื่อนผมหลายคน ขอย้ายจากงานสอบสวน ไปอยู่งานอำนวยการ ที่ไม่มีเงินประจำตำแหน่ง
บางคน ก็เปลี่ยนไปอยู่ งานสืบสวน งานป้องกันปราบปราม
หลายคน ก็ถูกถีบ จากงานอื่น มาอยู่งานสอบสวน โดยไม่ทันได้ตั้งตัว แถมไม่ถนัดงานสอบสวนด้วย
แต่บางคน น่าเจ็บใจ ตั้งใจอยู่งานสอบสวน เมืองใหญ่ งานเยอะ ยอมเหนื่อยเพื่อได้อยู่ใกล้ครอบครัว แต่กลับถูกเตะ ข้ามจังหวัด เพราะมีคนอื่นเข้ามาแทน……..

เกิดอะไรขึ้นกับงานสอบสวน ………….
ก่อนที่ คสช. จะเข้ามา พนักงานสอบสวน(พงส.) จะเติบโตในสายงาน โดยระบบเลื่อนไหล
ใช้เลขตำแหน่งเดิมในโรงพัก ไม่ว่าจะเป็น พงส.(รองสารวัตร ) แล้วเลื่อนตำแหน่ง พงส.ผู้ชำนาญการ (สารวัตร) , พงส.ผู้ชำนาญการพิเศษ (รอง ผกก.) , พงส.ผู้ทรงคุณวุฒิ (ผกก.)
แล้ว สายงานอื่น ถ้าไม่ผ่านการประเมินผลการทำสำนวนคดี ไม่ผ่านการสอบวัดความรู้ จะย้ายเข้ามาเป็น พงส.ไม่ได้

แต่เมื่อมี คสช. เข้ามา ได้มีคนกลุ่มหนึ่ง ได้ชงเรื่อง ให้คนๆ หนึ่ง เซนเรื่อง ยุบระบบสอบสวนเดิม
เป็น คำสั่ง คสช.ที่ ๗ / ๒๕๕๙ ครานี้ จะจัดใครย้ายเข้าย้ายออก จากการเป็นพนักงานสอบสวน ก็ได้ ไม่ต้องประเมินสำนวน ไม่ต้องสอบวัดความรู้ ไม่รู้เรื่องงานสอบสวน ยังมาเป็น พนักงานสอบสวนได้

และตอนที่ยุบนั้น โรงพักไหน มีตำแหน่งในสายงานสอบสวน ระดับ รองสารวัตร , สารวัตร ,รอง ผกก. กี่คน ก็ให้มีอยู่เท่านั้น

เช่น ศชต. ตอนนั้น ในสายงานสอบสวน หลายโรงพักเกือบทั้งหมด ไม่มีตำแหน่งพนักงานสอบสวน ระดับ สารวัตร และ รองผู้กำกับ ดังนั้น ตอนนี้ ที่ ศชต. จึงไม่มีตำแหน่ง สำหรับ พงส.ระดับสารวัตรและรองผู้กำกับ
ส่วนโรงพักในพื้นที่อื่น ถ้ามี พงส.ระดับ สารวัตร อยู่ ๕ คน ถ้า รองสารวัตร จะขึ้น สารวัตร ต้องถีบสารวัตรรุ่นพี่ ใน ๕ คนนั้น ออกไป ๑ คน จะขึ้นได้ไม่ได้นั้น ไม่ต้องวัดผลงาน ไม่ต้องวัดความรู้ แค่ให้ นายพิจารณา ก็ขึ้นได้แล้ว

พงส. ที่คิดว่า ยอมเหนื่อย อยู่โรงพักใหญ่ ทำคดีมากกว่าโรงพักเล็ก เพื่ออยู่กับครอบครัว เริ่มไม่มั่นคงแล้ว
เหตุผลการยุบแท่ง พนักงานสอบสวน ไม่มีอะไรมาก ก็เพื่อการบริหาร จัดสรรตำแหน่ง ทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายได้ง่าย ไม่ต้องไปสนใจกฎเกณฑ์เงื่อนไขผ่านงานสอบสวนมาหรือไม่

ส่วนข้ออ้างว่า จะให้ตำรวจ ทำได้ทุกหน้าที่ ไม่ใช่เป็นเฉพาะงานใดงานหนึ่ง…
พูดแล้วดูดี… แต่ถ้าให้เข้าใจง่ายๆ คือ ให้ตำรวจเป็นเหมือนเป็ด ทำได้ทุกอย่างแต่เอาดีไม่ได้สักอย่าง
หันไปดูทิศทางการทำงานของโลกปัจจุบันบ้าง เขาเน้นต้องการคนทำงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งนั้น พวกงานทั่วไป เขาจะเลิกจ้างคน ใช้เทคโนโลยี่ทำแทนกันแล้ว…

แล้วทำไมตำรวจเราไม่สร้าง ตำรวจเชี่ยวชาญเฉพาะทางบ้าง
พวกที่ตั้งใจอยู่งานสืบสวน ก็สร้างให้เก่งงานสืบสวน
พวกตั้งใจอยู่งานป้องกันปราบปราม ก็สร้างให้เก่งงานปราบปราม
พวกที่ตั้งใจอยู่งานสอบสวน ก็สร้างให้เก่งงานสอบสวน
ฯลฯ
ไม่ต้องย้ายข้ามสายงานกันไปมา
บางคนถูกเตะมางานสอบสวน พิมพ์ดีดยังไม่เป็น ยังนั่งจิ้มมองแป้น เมื่อไหร่จะสอบปากคำเสร็จ
บางคนเป็นนักสืบ จับโจรเสียนาน ย้ายมาสอบสวน ข้อกฎหมายก็ลืมๆ แยกแยะไม่ออก อันไหนผิดสัญญาทางแพ่ง อันไหนฉ้อโกง อันไหนยักยอก ฯลฯ
คนทำงานพอได้กับคนทำงานเป็น ไม่เหมือนกัน
เคยเจอรุ่นพี่มือสืบฯ ผมถามว่า ทำไมวันนี้ดึกแล้ว พี่ยังนั่งโรงพัก ไม่กลับบ้าน
คำตอบคือ ได้กลิ่นไม่ค่อยดี น่าจะมีเหตุยิงกัน ให้ลูกน้องเช็คข่าวอยู่
และในคืนนั้น ก็มีเหตุยิงกันจริง แม้ในเคสนี้จะช้ากว่าคนร้าย ๑ ก้าว แต่เคสอื่น ก็ยังจับได้ก่อนมือปืนลงมือ
ยังดีกว่า เคยเจอ หัวหน้าสืบฯ บางคน ยิงกันหน้าวัดในพื้นที่ ยังถามวัดอยู่ไหน แล้วจะจับคนร้ายได้หรือ

หรือสมัยเป็น พงส.ใหม่ๆ ตกใจเครียดทำอะไรไม่ถูก
รุ่นพี่พงส.เก๋าๆ แนะนำ
“ น้องไปต้องตกใจ ไม่ต้องเครียด คดีนี้เดี๋ยว ก็ยอมความ เชื่อพี่ “
“ น้องเตรียมตัว ทำให้เรียบร้อยคดีนี้ ร้องเรียนแน่นอน “
“ น้องเตรียมตัวให้ดี พรุ่งนี้ รับสายโทรศัพท์หูไหม้แน่”
ฯลฯ
หลายอย่างเป็นไปตามที่ พงส.รุ่นพี่ บอก
ถามว่า พี่รู้ได้ไง พี่ตอบว่า
“พี่อยู่ที่นี่มานาน พี่รู้จักชาวบ้านเยอะ รู้คนไหนนิสัยอย่างไร อ่านเกมส์ออกตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาในโรงพักแล้ว พี่อยู่สอบสวนมานาน ฟังคำพูดไม่กี่คำ ก็รู้ว่า เขาต้องการอะไร “

หลายเรื่องที่เราจะเห็นความแตกต่างระหว่าง
การเป็นตำรวจผู้เชี่ยวชาญ กับ การเป็นตำรวจแบบเป็ดๆ”

ข้อความจากนายตำรวจยศไม่ใหญ่ แต่มุมมองกว้างใหญ่ ไม่ธรรมดา กระทุ้ง ตั้งคำถาม และสะท้อนชีวิตจริงของตำรวจ การแต่งตั้งตำรวจที่คงหมายรวมถถึงหลายๆวาระหลายๆยุคอย่างตรงประเด็น

เป็นเสียงสะท้อน ผลจากการแต่งตั้งตำรวจ ในยุคที่ยังประกาศปาวๆว่ากำลังปฏิรูปตำรวจ!?

หากจะปฏิรูปตำรวจ ต้องยอมรับความจริง เรื่องจริงในแวดวงตำรวจเสียก่อน โดยเฉพาะเรื่องจริงของการแต่งตั้งตำรวจ?!


QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image