นายเฉียง หัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หัวเว่ย ได้จัดงานโมบายล์ ไทยแลนด์ คองเกรส 2018 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2561 จัดที่ศูนย์นวัตกรรมและการเรียนรู้ CSIC ชั้น 38 อาคารจี ทาวเวอร์ โดยนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่น 5G เครือข่ายออลคลาวด์ วิดีโอ และอินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์และความสำเร็จจากทั่วโลก พร้อมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ชั้นนำและโซลูชั่นสำหรับธุรกิจเฉพาะด้าน เร่งผสานความร่วมมือกับลูกค้า และเหล่าพันธมิตรต่างๆ เพื่อสร้างโลกดิจิทัลที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ โดยการจัดงานครั้งนี้มีความแตกต่างจากปีก่อน เนื่องจากนวัตกรรมที่เกิดขึ้นสามารถจับต้องได้มากกว่า
นายเฉียงกล่าวว่า หากใช้ประสบการณ์ในการคาดการณ์ คิดว่าประเทศไทยคงไม่ใช่ประเทศกลุ่มแรกที่นำเทคโนโลยี 5G ที่จะสามารถใช้ได้ทันที เหมือนอย่างประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน แต่จะสามารถใช้เทคโนโลยี 5G ได้ประมาณ ค.ศ.2022 หรือปี พ.ศ. 2565 หรือนับจากนี้อีก 4 ปี ถือว่าไม่ได้ล่าช้าไปเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ และหากเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยถือว่ายังเป็นผู้นำเรื่อง 5G อยู่ และเมื่อถึงเวลานั้นประเทศไทยจะได้รับประโยชน์มากกว่า เนื่องจากเห็นภาพร่วมของเทคโนโลยีจากประเทศที่มีการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวไปแล้ว
“นโยบายไทยแลนด์ 4.0 จำเป็นจะต้องใช้เทคโนโลยี 5G และอินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ ในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกัน ร่วมมือกัน รวมถึงมองไปในทิศทางเดียวกัน ในขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในขั้นการเตรียมความพร้อม แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละอุตสาหกรรม หากรีบร้อนเกินไปกังวลว่าจะไม่คุ้มค่า”
นายเฉียงกล่าวใน ค.ศ.2019 หรือ พ.ศ.2561 หัวเว่ยจะมีการทดลองเทคโนโลยี 5G ในมือถือเครื่องแรกของหัวเว่ย เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบถึงภาครวมของเทคโนโลยีได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หัวเว่ยเน้นสร้างสิ่งแวดล้อมรูปแบบใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และนำนวัตกรรมที่ล้ำหน้าออกมาให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของโอเปอเรเตอร์ และผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับความพยายามของหัวเว่ยที่ต้องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ
