เครือข่ายทวงคืนผืนป่าฯ จี้กรมธนารักษ์ ถอนอนุญาตใช้พื้นที่ สร้างบ้านพักขรก.ตุลาการ เชิงดอยสุเทพ(คลิป)

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 มีนาคม ที่ห้องประชุมชั้น3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวแทนกลุ่มเครือข่ายทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ พร้อมเครือข่ายภาคพลเมือง ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง นายประวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ชี้แจงโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค5 และที่พักของข้าราชการตุลาการ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่อยู่ติดเขตป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และยื่นถึงอธิบดีกรมธนารักษ์ เพื่อขอให้ปรับปรุงระเบียบการใช้พื้นที่ราชพัสดุ และแก้ปัญหาทัศนะอุจาดของดอยสุเทพ โดยนายปวิณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ นายยงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์ พื้นที่เชียงใหม่ เป็นผู้รับเรื่องแทน

นายเฉลิมพล แซมเพชร ตัวแทนภาคพลเมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า ตามที่ปรากฏภาพข่าวเผยแพร่ในสื่อสาธารณะ และสื่ออินเตอร์เน็ต กรณีกรมธนารักษ์อนุญาตให้ศาลอุทธรณ์ภาค5 ใช้พื้นที่ราชพัสดุซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจการกำกับดูแลของกรมธนารักษ์ ดำเนินโครงการสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค5 และที่พักของข้าราชการตุลาการ ข้าราชการศาลยุติธรรมในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรุกเข้าไปบริเวณพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ-ปุยนั้น ทั้งนี้การใช้ประโยชน์จากที่ดินราชพัสดุดังกล่าวทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัย ต่อแนวทางการพิจารณาเพื่ออนุญาตให้หน่วยงานภาครัฐใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างแท้จริง กลุ่มเครือข่ายทวงคืนพื้นป่าดอยสุเทพ จึงขอให้กรมธนารักษ์ได้มีการพิจารณาและปรับปรุงระเบียบการขอใช้พื้นที่ราชพัสดุโดยยื่นเรียกร้อง 4 ข้อ 1. ขอมิให้กรมธนารักษ์อนุญาตให้มีการใช้ที่ดินราชพัสดุที่อยู่ติดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ รวมถึงที่ดินราชพัสดุที่มีศักยภาพในการสงวนรักษาให้เป็นพื้นที่สีเขียว

นายเฉลิมพล กล่าวต่อว่า 2. ขอให้มีการกำกับดูแลการใช้พื้นที่ราชพัสดุทั่วประเทศที่มีการขออนุมัติใช้และให้มีการพิจารณาเรียกคืนการใช้ที่ดินราชพัสดุซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการขอใช้พื้นที่  3.โอกาสต่อไปการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ราชพัสดุ ขอให้ประชาชนได้มีส่วนในกระบวนการรับฟังความคิดเห็น และกระบวนการมีส่วนร่วมก่อน เพื่อให้การใช้ที่ดินราชพัสดุมาจากฉันทามติของประชาชน มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับบริบทของชุมชนโดยรอบที่ดินดังกล่าว และ4.โครงการก่อสร้างบ้านพักตุลาการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ขอให้กรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของที่ดินพิจารณาแก้ไข ด้วยการเพิกถอนการอนุญาตปรับปรุงที่ดินให้เป็นสภาพป่าเชิงเขาเช่นเดิม

ด้าน นายยงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ กล่าวภายหลังรับเรื่องว่า หลังรับหนังสือแล้วจะเสนอเรื่องให้แก่ท่านผู้ว่าฯ เพื่อลงรับ แล้วผู้ว่าฯจะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบและดำเนินการ และแจ้งเรื่องให้ทางเครือข่ายผู้ยื่นหนังสือได้รับทราบแต่ในส่วนของเนื้อหาและรายละเอียดต่างๆนั้นก็คงจะต้องให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดู และพิจารณาอีกที  ทั้งนี้ปกติแล้วที่ราชพัสดุนั้นมีไว้เพื่อใช้ในราชการเป็นหลัก แล้วส่วนใหญ่เกือบ 100% ที่ว่าเมื่อเป็นที่ราชพัสดุแล้วจะต้องมีส่วนราชการครอบครอง ซึ่งที่แปลงนี้ทางทหารก็ได้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2480 แล้วมีการออกเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) ในปี 2500 เดิมทหารเป็นผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ตอนหลังทางศาลก็ไปขอทำความตกลงกับทางทหาร ทหารก็แบ่งให้ใช้บางส่วนการครอบครองก็จะเปลี่ยนจากทหารมาเป็นศาล เมื่อ 2 หน่วยงานมีการตกลงยินยอมกันแล้ว ทางกรมธนารักษ์ก็จะพิจารณาอนุญาตตามนั้น ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงการครอบครองจากหน่วยหนึ่ง มาเป็นอีกหน่วยหนึ่งแค่นั้นเอง

Advertisement

“ส่วนหลังจากที่มีการอนุญาตเรียบร้อยแล้วก็จะเป็นหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการ ซึ่งขณะนี้เรามีที่ราชพัสดุในเชียงใหม่ประมาณ 4,500 แปลง ทุกแปลงหลังจากอนุญาตแล้ว ไม่มีข้อกฎหมายใดที่ว่าจะต้องมายื่นขออนุญาตต่อทางธนารักษ์ในการที่จะวางผัง ปลูกสร้างแลัใช้ประโยชน์ ตรงนั้นจะเป็นเรื่องที่ส่วนราชการนั้นๆ ต้องไปพิจารณาตามความเหมาะสม ว่าจะวางผังหรือใช้ประโยชน์อย่างไร เพียงแต่ว่าถ้าสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้วเสร็จเรียบร้อย ก็ให้สำรวจสิ่งก่อสร้างแล้วมาขึ้นทะเบียนราชพัสดุเราจะคุมกว้างกว้างแค่นั้นเอง คือคุมเฉพาะว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้วหากจะหรือถอนจะต้องมีการประมูลขายซาก ดูในเรื่องการนำวัสดุไปใช้แค่นั้น เราจะเข้าไปล้วงลึกในรายละเอียดตรงนั้นกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจ”นายยงยุทธกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังยื่นหนังสือ ทางเครือข่ายทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ ได้เปิดเผยรายชื่อขององค์กรภาคพลเมืองที่มาร่วมกันขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวล่าสุดมีถึง 14 เครือข่าย โดยในวันที่ 27 มีนาคม เวลา 14.00น. จะเดินทางเข้าพบและยื่นเรื่องนี้ต่อ ผบ.มทบ.33 ที่ค่ายกาวิละต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image