เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้เช่าอาคารตึกแถว ถนนรถไฟ ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี กว่า 30 คน นำโดยนางมารยาท กลัดแก้ว อายุ 50 ปี เดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรี ยื่นหนังสือต่อนายปริทัศน์ วรรณสิทธิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรี ขอความเป็นธรรมและให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกำหนดแนวเส้นทางก่อสร้างทางรถไฟรางคู่สายนครปฐม-หัวหิน ทบทวนการก่อสร้าง เนื่องจากแนวเขตบางส่วนมีการก่อสร้างแนวเขตการกั้นรัวครอบคลุมอาคารตึกแถว ผู้เช่าไม่สามารถเข้าไปใช้ทำประโยชน์ได้ ทำให้ผู้เช่าได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก
นางมารยาท กล่าวว่า ตนและกลุ่มผู้เช่าดังกล่าว ได้เช่าพื้นที่กับทางการรถไฟและปลูกสร้างอาคารตึกแถว 3 ชั้น จำนวน 25 ห้อง ด้านหน้าติดถนนรถไฟ ด้านหลังอาคารเป็นเส้นทางรถไฟสายลงสู่ภาคใต้ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และประกอบอาชีพค้าขายมาเป็นเวลาหลายสิบปี ก่อนหน้านี้ตนและกลุ่มผู้เช่าทราบว่ารัฐบาลมีนโยบายปรับปรุงและก่อสร้างทางรถไฟรางคู่สายนครปฐม-หัวหิน ซึ่งพื้นที่พักของตนจะอยู่ในส่วนของสัญญาที่ 2(ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน) ที่ผ่านมาได้สอบถามเจ้าหน้าที่รถไฟเพชรบุรี ทราบว่า รางรถไฟรางใหม่จะสร้างในฝั่งขวาด้านฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟเพชรบุรี เส้นทางการก่อสร้างทางรถไฟได้ผ่านสถานีรถไฟเพชรบุรี และผ่านด้านหลังของอาคารตึกแถว ส่วนในฝั่งซ้ายซึ่งเป็นด้านหลังของอาคารตึกแถว และอยู่ด้านเดียวกับสถานีรถไฟเพชรบุรีจะเป็นเพียงแนวกั้นเขตการก่อสร้างเท่านั้น ผู้เช่ายังคงสามารถใช้อาคารดังกล่าวได้ต่อไป
นางมารยาท กล่าวต่อไปว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 ได้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) ที่เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ฯ ในสัญญาที่ 2 นำแผนผังการสร้างทางรถไฟรางคู่และแนวเขตการกั้นรั้วมาติดประกาศว่าแนวเส้นทางรถไฟรางใหม่ได้เปลี่ยนแนวมาอยู่ฝั่งของอาคารตึกแถว และจะมีการก่อสร้างแนวกั้นรั้วออกมาครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของอาคารตึกแถวทั้งหมด โดยจะเข้ามาดำเนินการภายในเดือนพฤษภาคม นี้
“ถึงแม้อาคารดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย และครบสัญญาเช่าไปในปี 2559 แต่พวกตนก็คงอยู่อาศัยและชำระค่าเช่าทุกเดือนมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของการรถไฟก็ได้แจ้งว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินการต่อสัญญาฉบับใหม่ให้แก่ผู้เช่าทั้งหมด แต่อยู่ๆมีการมาติดป้ายแจ้งเปลี่ยนแนวเส้นทางรถไฟและกั้นรั้วปิดล้อมอาคารโดยที่ไม่แจ้งให้พวกตนได้รับล่วงหน้าก่อน พวกตนไม่สามารถใช้อาคารดังกล่าวได้ ทำให้ได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก จึงเดินทางมาขอความเป็นธรรม โปรดพิจารณากำหนดแนวเส้นทางการก่อสร้างทางรถไฟใหม่ โยกำหนดแนวรั้วเขตรถไฟไปอยู่หลังอาคาร เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ตึกแถวแห่งนี้ และไม่สร้างความเดือนร้อนให้แก่ผู้เช่าและประชาชนใกล้เคียงต่อไป” นางมารยาท กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นนายปริทัศน์ ได้รับเรื่องไว้และจะประสานงานให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกำหนดแนวเส้นทางก่อสร้างทางรถไฟรางคู่สายนครปฐม-หัวหิน ทราบเพื่อดำเนินการต่อไป
