เลือกตั้งแล้ว เผด็จการทั้งปวงต้องมลายสิ้น โดย เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

ขอแสดงความยินดีที่พรรคการเมืองใหม่ผ่านการจดแจ้งตั้งพรรคการเมืองถึงวันนี้น่าจะเกินกว่า 9 กลุ่ม และขอต้อนรับพรรคประชาธิปัตย์ที่ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 73 เมื่อสัปดาห์ก่อน

นับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนมา ผู้ได้รับจดแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ต้องหาสมาชิกให้ครบ 500 คน มีทุนจดทะเบียนประเดิม 1,000,000 บาท และเมื่อจัดประชุมจัดตั้งพรรคการเมืองของผู้ร่วมจัดตั้งพรรคต้องมีไม่น้อยกว่า 250 คน

ขอแสดงความยินดีกับไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ยืนหยัดจัดตั้งพรรคการเมืองชื่อ “ประชาชนปฏิรูป” ซึ่งได้รับการจดแจ้งตั้งพรรคไปเรียบร้อยแล้ว รอแต่จะมีการประชุมจัดตั้งพรรคต่อไปไม่ช้าไม่นานนี้

หากว่าถึงความพร้อม เว้นจากพรรคเดิม ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคที่จะจัดประชุมและจัดตั้งพรรค มีหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคก่อนใคร น่าจะเป็นพรรคประชาชนปฏิรูป ซึ่งยังไม่ทราบว่าไพบูลย์ นิติตะวัน จะป็นหัวหน้าพรรค หรือเป็นเลขาธิการพรรคด้วยตัวเองไหม

Advertisement

ส่วนจะเชิญให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นหัวหน้าพรรค หรือประธานที่ปรึกษาพรรค เพื่อยืนยันการสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปหลังการเลือกตั้ง ยังต้องใช้เวลาอีกสักพัก

ที่น่ายินดีอีกประการหนึ่ง คือข่าวการเคลื่อนไหวของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะจัดตั้งพรรคการเมือง เปิดโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ซึ่งมีความเป็นไปได้

ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดเจนขึ้นว่า ความเคลื่อนไหวทั้งนักการเมืองของพรรคการเมืองเดิม ความเคลื่อนไหวของนักการเมืองที่จัดตั้งพรรคขึ้นใหม่ และนักการเมืองฟากที่เป็นรัฐบาลขณะนี้ เริ่มแสดงให้เห็นภาพของการเลือกตั้งที่ฝ่ายรัฐบาลย้ำกันนักว่า ไม่ควรจะเกินกว่าโรดแมปเดิม คือภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หากกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกรัฐสภาเสร็จตามกำหนด

Advertisement

รัฐบาลหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งอาจเชิญชวนให้พรรคการเมืองทั้งหลายมาตกลงกันในเดือนมิถุนายนนี้ ความคลาดเคลื่อนของวันเลือกตั้งจะไม่ล่วงเลยไปเกินกว่ากำหนด

ประการสำคัญของรัฐบาลนี้ คือไม่ต้องการให้เกิดเหตุวุ่นวายระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง หรือวันเลือกตั้งเหมือนที่ผ่านมา เพราะหากเกิดความวุ่นวายไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใด รัฐบาลอาจจะใช้ความเด็ดขาดแก้ปัญหาความวุ่นวายนั้น ซึ่งไม่เป็นผลดีแต่อย่างใดกับใครทั้งสิ้น โดยเฉพาะกับประชาชน

วันนี้ เชื่อว่าทั้งรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง พรรคการเมืองทั้งที่เป็นพรรคเดิม และพรรคที่จดแจ้งใหม่ รวมทั้งประชาชนทั่วไปต้องการเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้น ต้องการเห็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย และหลีกพ้นจากอำนาจเผด็จการเสียที

ประการหนึ่ง มองออกไปในอนาคตหลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล แม้พรรคที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ประการหนึ่งรัฐบาลและนักการเมืองต้องล้มเลิกระบบเผด็จการออกไปให้ได้จากระบอบการเมืองไทย

ประการแรก คือระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ขอให้พรรคการเมืองร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ออกกฎหมายยกเลิกคำสั่ง ประกาศ ที่ออกโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติทั้งหมด ตั้งแต่ฉบับแรกถึงฉบับสุดท้าย รวมทั้งที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญ

เว้นแต่หากรัฐบาลหรือสมาชิกรัฐสภาเห็นพ้องร่วมกันว่า คำสั่ง ประกาศ ฉบับใดเป็นประโยชน์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยจะให้คงไว้ ด้วยการปรับเปลี่ยนเป็นพระราชกฤษฎีกา พระราชบัญญัติ ให้เป็นไปตามทำนองคลองธรรมของระบอบประชาธิปไตย

โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่ประกาศชัดแจ้งว่าต่อต้านเผด็จการมาตลอด ต้องเป็นหัวหอกในการยกเลิกคำสั่ง ประกาศที่มาจากอำนาจเผด็จการให้หมดไปก่อนพรรคการเมืองอื่น ซึ่งยังไม่เคยทำได้สักครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image