เกิดกระแสดราม่าในแวดวงสีกากี กลุ่มไลน์ข้าราชการตำรวจมีประเด็นร้อน เมื่อมีการโพสต์ภาพและข้อความแชร์ต่อกันในหลายกรุ๊ป ใจความว่ามีตำรวจจริงจับตำรวจต้องสงสัยเป็นสีกากีเก๊ เหตุเกิดในพื้นที่ตำรวจภาค 7
พัวพันเกี่ยวโยงถึงกรณีคำสั่ง ตั้งแท่นเด้งตำรวจใหญ่น้อย 15 นาย ตามสั่งการของจเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ หรือ ‘บิ๊กใหม่’
แชร์ว่อนในไลน์ เหตุเกิดเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ตำรวจเพชรบุรีไล่ตะครุบชายต้องสงสัย ตรวจสอบสุดท้ายแล้วเป็น ส.ต.ต.นอกหน่วย จับได้ไล่ความ อ้างว่าเป็นคนของจเรตำรวจแห่งชาติ ‘สายลับจับสีกากี’ ที่ทำผิดระเบียบวินัย ไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ พ.ศ.2561 (ที่กำหนด ตำรวจชายในเครื่องแบบต้องผมสั้นขาว 3 ด้าน สั้นไม่เกิน 3 เซนติเมตร ห้ามทำสีนอกเหนือจากสีดำ ตำรวจทำงานสืบ การข่าวให้ตัดรองทรงสูง และห้ามตบเจลให้มันวาว ส่วนหญิง ให้รวบขมวดสวยงามเป็นระเบียบ หากผมยาว ทรงเปีย ทรงหน้าม้าห้ามมี ) หน้าที่สายลับคือจับภาพ เก็บหลักฐานตำรวจผิดระเบียบ แต่บิ๊กๆสีกากีที่ตามไล่จับไม่เชื่อเกิดเรื่องเกิดเหตุ ยึดอาวุธ ยึดรถ หน่วงเหนี่ยวกันบานปลาย แชร์ลงไลน์ วิจารณ์มันสนั่นกลุ่มสีกากี
ย้อนไปเหตุเกิดตั้งแต่ที่โรงพักบ้านลาด จ.เพชรบุรี เปิดบันทึกข้อความจากสภ.บ้านลาด ลงวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เรื่อง รายงานมีบุคคลแสดงตนเป็นจเรตำรวจ จับทรงผมและการแต่งกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำไปถึง พล.ต.ต.วิศาล พันธุ์มณี ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี
สรุปใจความได้ว่า มีชายไทยวัยไม่เกิน 30 ปี สวมใส่เสื้อผ้าลำลอง รองเท้าแตะ ขึ้นโรงพักมาทำลับๆล่อๆ เปิดห้องสืบสวนสภ.บ้านลาด แบบไม่เคาะไม่เรียก ขณะเจ้าหน้าที่กำลังคุยกับสายลับคดีสำคัญ ชายดังกล่าว เข้าโรงพักถามหา ผกก.หัวหน้าสถานี แต่เมื่อแจ้ง ผกก.ไปภารกิจยิงปืนประจำปีที่ จ.นครราชสีมา ก็เดินไปทั่วถามหานายตำรวจระดับรองผกก. คนนั้นคนนี้ จนตำรวจในโรงพักสงสัยชายคนนี้เป็นใครมาจากไหน คุยได้ใจความชายนิรนามอ้างว่าได้รับคำสั่งนาย จเรตำรวจใหญ่ ให้มาตรวจ
ในรายงานบันทึกข้อความระบุว่า ชายคนดังกล่าวแสดงความไม่พอใจในการยื้อยุดกัน ตั้งแต่ไปทำท่าทางแปลกๆที่ห้องสืบสวน มีคำว่า “หากมีปืน..” หลุดในประโยคสนทนา เจรจาปรับความเข้าใจก่อนให้ชายนิรนามต้องสงสัยกลับไป แต่สงสัยในพฤติกรรม การแต่งกาย กิริยา ของชายที่อ้างว่าเป็นสายลับ ไม่แน่ใจว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หวั่นกระทบความมั่นคงหน่วยงาน จึงส่งเรื่องให้บก.ภ.จว. สืบสวนการกระทำของบุคคลดังกล่าว
รองผกก.รักษาการผกก.บ้านลาด ทำเรื่องแจ้งหน่วยเหนือ ภ.จว. !?
ต่อเนื่องประจวบเหมาะวันเดียวกัน ชายต้องสงสัย ลักษณะตรงกับที่พบ ที่สภ.บ้านลาด ถูกตำรวจในเพชรบุรี ตามจับได้ หลังท่าทางพิรุธ ยื้อยุด จนมีการส่งต่อข้อความเกิดปมวิพากษ์วิจารณ์ดราม่าในกลุ่มสีกากีอยู่ 2 วัน
จนกระทั่งค่ำวานนี้ เพจเฟซบุ๊กศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ เพชรบุรี ต้องออกมา โพสต์ภาพและความดับปมดราม่า
#หยุดไลค์หยุดแชร์
“กรณีมีการแชร์ข้อมูลว่ามีบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในพื้นที่ จว.เพชรบุรี จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้มาตรวจสอบทรงผมของข้าราชการตำรวจในสังกัด ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฎิบัติตนของข้าราชการตำรวจ เมื่อแต่งเครื่องแบบ พ.ศ.2561”ประกอบกับในเวลาใกล้เคียง มีการแพร่ คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 24/2561 ตั้งแท่นเตรียมลงนามโดย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ให้ตำรวจ 15 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร.ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี 2.พ.ต.อ.วิทัศน์ บริรักษ์ รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี 3.พ.ต.อ.วิเชียร อินเทียน รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี 4.พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี 5.พ.ต.อ.พชร โคตะ ผกก.ฝ่ายอำนวยการ3 กองบังคับการอำนวยการ ตำรวจท่องเที่ยว6.พ.ต.อ.ชลินทร์ กฤชกระพัน ผกก.ฝ่ายอำนวยการ 3 กองบังคับการอำนวยการ บช.น.7.พ.ต.อ.ธีรยุทธ์ ทองสำริ ผกก.กลุ่มงานตรวจสอบและควบคุมมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี 8.พ.ต.ท.ไพรัช อยู่พิพัฒน์ รองผกก.สส. สภ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี 9.ร.ต.ท.อนวัช เสริมชีพ รองสว.กลุ่มงานพัฒนาเทคโนโลยีและบริหารความถี่ กองตำรวจสื่อสาร 10.ด.ต.ปรีชา อ้อยทอง ผบ.หมู่.สืบสวน สภ.ภ.บ้านลาด จว.เพชรบุรี 11.ด.ต.กิตปตา ประไพ ผบ.หมู่ สภ.แก่งกระจาน จว.เพชรบุรี 12.ด.ต.สุธา พรามศาสตร์ ผบ.หมู่ กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.เพชรบุรี 13.ส.ต.ท.อาคม ยิ้มศรวล ผบ.หมู่ป้องกันและปราบปราม สภ.แก่งกระจาน จว.เพชรบุรี
สแกนรายชื่อ 15 นายส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาค 7 บังเอิญเป็นพื้นที่เกิดเหตุดราม่าสนั่นไลน์ และในที่นี้ระดับบิ๊ก รองผบก.ภ.จ.เพชรบุรี ถึง 3 นาย
‘มติชน’ สอบถาม ไปยัง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.) เปิดเผยว่า ยังไม่สั่งให้ตำรวจทั้ง 15นาย ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. แต่ในวันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม ได้เรียกตำรวจทั้ง 15 นายมาพูดคุย ตักเตือน ที่ศปก.ตร. โดยจากการตรวจโดยจเรตำรวจ และหน่วยงานต้นสังกัด พบว่าตำรวจทั้ง 15 นายไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนออกคำสั่งเรียกตัวมามีการตรวจพบ มีหลักฐานชัดเจนว่าไม่ทำตามระเบียบคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะผู้ที่เป็นระดับผู้บังคับบัญชาและไม่ปฏิบัติตามระเบียบวินัย อย่างนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ผมยาว ไม่เป็นตามระเบียบ โดยจะให้โอกาสทั้ง 15 นาย ไปปรับปรุงตัว ตัดผม แต่งกายให้ถูกระเบียบ แต่หากยังไม่ปฏิบัติตามก็จะสั่งให้มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. และต้องไปเข้าหลักสูตรอบรม “ธำรงวินัย”
“เป็นข้าราชการตำรวจ ต้องมีวินัย เมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่ง หรือระเบียบใด ที่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อรักษาวินัย ก็ต้องปฏิบัติตาม ผู้บังคับบัญชาไม่ได้สั่งให้ไปทำอะไรที่ทุจริตสักหน่อย ก็ไม่เข้าใจว่าคนที่ไปทำตามคิดเห็นอย่างไร ต่อไปนี้จเรตำรวจ ตรวจสอบทุกวัน ต่อเนื่อง หากเป็นข้าราชการตำรวจ สวมใส่เครื่องแบบก็ต้องมีวินัย ผมสั้น ตามระเบียบเคร่งครัด ถ้าทำไม่ได้ก็ไปทบทวนดูว่าต้องทำอย่างไร ในเมื่อเป็นข้าราชการตำรวจ จากนี้ทั้งต้นสังกัด และเจรตำรวจ รวมทั้งจเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการตั้งชุดสืบสวนจเรตำรวจแห่งชาติขึ้นมา จะตรวจสอบทั่วประเทศ ตรวจสอบทุกวัน โดยไม่ต้องบอกนัดหมายว่าจะตรวจสอบวันไหน อย่างไร ที่ไหน เพราะถ้าใส่เครื่องแบบก็ต้องมีวินัยเสมอ การมีวินัยไม่ได้ระบุว่าต้องมีเฉพาะวันใดวันหนึ่งเท่านั้น”
ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ๑๙๑ เพชรบุรี โพสต์ภาพและข้อความในเพจฯ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มไลน์ข้าราชการตำรวจว่ามีการส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวไปสุ่มตรวจ คล้ายจับผิดข้าราชการตำรวจเรื่องทรงผม ที่ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่อว่า มีคำสั่งให้ชุดสืบสวนจเรตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ สุ่มตรวจจริง โดยกรณีที่ ภ.จว.เพชรบุรี มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไป ซึ่งจเรตำรวจไม่จำเป็นต้องบอกว่าส่งคนไปตรวจในลักษณะใด ผลการลงพื้นที่ตรวจก็พบว่ามีข้าราชการตำรวจที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบตร. ก็มีหลักฐาน แต่วิธีการของเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ อาจระวังเนื้อระวังตัวจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดก็ได้ตักเตือนกันแล้ว
“อย่างไรก็ตามกลับพบว่ามีความพยายามของตำรวจบางนายที่มีการโพสต์ข้อความลงในกลุ่มไลน์ของตำรวจเพื่อให้เกิดความสับสน เข้าใจผิด เกิดความกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ต่อคำสั่งตามระเบียบ ตรงนี้ทราบว่า พล.ต.ต.วิศาล พันธุ์มณี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เรียกตำรวจนายนั้น ซึ่งมีตำแหน่งระดับรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ไปตักเตือนกันเป็นการภายในแล้ว และในวันจันทร์นี้ตนก็ได้เรียกตำรวจนายนั้นมาพบด้วยโดยเป็น 1ใน 15 ข้าราชการตำรวจที่สั่งให้มารายงานตัวเพื่อตักเตือนที่ ศปก.ตร.” จเรตำรวจแห่งชาติกล่าว
สยบดราม่าแชร์ว่อนไลน์กลุ่มตำรวจ สายลับจับสีกากีมีจริง เครื่องแบบไม่กริ๊บ ทรงผมไม่เป๊ะ มีโอกาสได้รับคำสั่งเชิญนั่ง ศปก.ตร.ได้ง่ายๆ เป็นคำสั่งจัดแถวสีกากี ที่ขึงขัง เด็ดขาด ในพ.ศ.นี้ !?
