ประสานักดูนก ฤดูรัก โดย : สนพ.ไชยยันต์ เกษรดอกบัว

นกแซวสวรรค์สีขาว เพศผู้

เมื่อลมร้อนพัดผ่าน ม่านฝนเริ่มโปรย นกอพยพเดินทางกลับถิ่นเกิด ไปเลือกคู่ผสมพันธุ์ นกประจำถิ่นในบ้านเราก็เข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ประจำปี

จริงๆ แล้ว นกเริ่มจับคู่ สร้างรังกันตั้งแต่เดือนธันวาคม นกใต้จะเริ่มก่อน เมื่อเข้าสู่เดือนเมษายนและพฤษภาคม นกเข้ารัง พ่อนกได้ความไว้เนื้อเชื่อใจจากแม่นก ก็ทำหน้าที่พ่อบ้านที่ดี หาอาหารมาป้อนแม่นก เป็นหลักประกันว่า มีความสามารถจะเลี้ยงดูแม่นกและลูกน้อยได้ตลอดรอดฝั่ง ส่วนแม่นกก็มีหน้าที่สำคัญ คือ สร้างไข่ที่ประกอบด้วยไข่แดง แหล่งรวมสารอาหารชั้นยอดที่แม่นกจะคัดสรรมาจากอาหารที่พ่อนกนำมาป้อน ไว้เป็นแหล่งอาหารของตัวอ่อนในช่วงที่กำลังเติบโตในไข่ ก่อนจะปฏิสนธิ

พ่อและแม่นกจะผสมพันธุ์กันหลายครั้ง อาทิ เหยี่ยวแมลงปอขาดำ จะเริ่ม “ขึ้นกดบทอัศจรรย์” ตั้งแต่เช้า ทำซ้ำๆ หลายรอบหลายวัน จนกว่าแม่นกจะวางไข่ครบ 1 ครอก เพราะนกที่วางไข่มากกว่า 1 ใบต่อรัง มักจะวางไข่ครั้งละ 1 ใบ/ วัน จึงต้องมีการผสมพันธุ์ฉีดน้ำเชื้อจากพ่อนกเข้าสู่ทวารร่วม หรือ Cloaca ของแม่นก นักปักษีวิทยาเรียกโมเมนต์ที่อาจนานแค่ชั่วนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ หรือเสี้ยววินาทีว่า Cloacal kiss เพราะว่าพ่อและแม่นกจะหันก้นมาแตะกันเพียงชั่วอึดใจ แล้วพ่อนกก็จะฉีดน้ำเชื้อเข้าไปด้วยความช่วยเหลือของอวัยวะนูนๆ เป็นก้อนเล็กๆ ที่ขอบทวารร่วมของพ่อนก เรียกว่า cloacal protuberance ในนกบางกลุ่ม เช่น นกเป็ดน้ำ อวัยวะช่วยฉีดน้ำเชื้อนี้ จะมีขนาดใหญ่และยาว คล้ายลึงค์ของมนุษย์ เรียกว่า phallus ซึ่งยาวเท่ากับตัวของเป็ด!

เมื่อน้ำเชื้อที่ประกอบด้วยอสุจิเดินทางไปตามมดลูกเข้าสู่ท่อนำไข่ ตัวที่แข็งแรงเท่านั้นจะเจาะผนังไข่เข้าไปปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อน แล้วต่อมต่างๆ ในผนังมดลูกจะสร้างไข่แดง ไข่ขาว รองรับตัวอ่อน และส่งเกลือแคลเซียมมาบุล้อมรอบตัวอ่อนและไข่เป็นเปลือกไข่ เมื่อนั้นไข่ใบสมบูรณ์ก็กำเนิดขึ้น เมื่อรังรักที่นกช่วยกันสร้าง หรือบางชนิดอาจเป็นพ่อนกสร้างฝ่ายเดียว ในฐานะพ่อเลี้ยงเดี่ยว เช่น นกอีแจว นกโป่งวิด แล้วแม่นก
ก็จะสะบัดก้น แจวหายไปหานกตัวผู้ตัวใหม่ เพื่อผสมพันธุ์อีกรอบ

Advertisement

แต่รูปแบบที่กล่าวมาไม่ใช่เรื่องปกติของอาณาจักร นกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ “นกป่า” จะช่วยกันสร้างครอบครัวสลับกันกกไข่ ป้องกันไข่จากฝน หรือความหนาวเย็น รวมถึงหาเหยื่อมาป้อนลูกนกเมื่อฟักเป็นตัวแล้ว
ยิ่งในป่ามีสัตว์ล่ารังจำนวนมาก อาทิ หมาไม้ ลิง ค่าง กระรอก กระแต งู เหี้ย หรือตะกวด โดยทั่วไปนกป่าจำเป็นต้องเร่งการกกไข่ เลี้ยงลูกในรัง ไม่เกิน 1 เดือน ให้โตพอที่จะบินในระยะใกล้ ออกจากรังไปแอบตามใบไม้ แล้วพ่อแม่ค่อยตามไปป้อนอาหารต่อ ให้พ้นสายตาของนักล่ารัง ที่จะกินทั้งไข่และลูกนก รวมๆ แล้ว

สำหรับนกป่าขนาดเล็ก เช่น นกแซวสวรรค์ ซึ่งจะทำรังแบบเปิด เป็นถ้วยขนาดเล็กขัดคาไว้กับกิ่งไม้เตี้ยๆ สูงจากพื้นดินไม่เกิน 1-2 เมตร วิธีเอาตัวรอดของนก คือ กกเร็ว เลี้ยงเร็วให้ลูกนกออกรังเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นลักษณะรังเปิด จะกลายเป็นเป้านิ่งที่รอเวลาจะตกเป็นเหยื่อของสัตว์ล่ารัง ซึ่งก็ล่าเพราะจำเป็นต้องเอาชีวิตรอด อันเป็นวัฏจักรของสัตว์ป่า

หาได้ล่าเพราะโลภ หรือหลง เช่น คนบางคน ที่เข้าใจผิดว่าเนื้อสัตว์ป่ามีคุณทางรักษาโรค โดยลืมไปว่าสัตว์ป่าก็รักชีวิตเหมือนมนุษย์อย่างเราๆ

Advertisement

ข้อมูลเพิ่มเติม http://birdsofthailand.org/bird/asian-paradise-flycatcher

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image