“ชูศักดิ์” เชื่อแจ้งเอาผิดเพื่อไทยไม่ถึงขั้นตัดสิทธิการเมือง

ชูศักดิ์ ศิรินิล (แฟ้มภาพ)

“ชูศักดิ์” เชื่อแจ้งเอาผิดเพื่อไทยไม่ถึงขั้นตัดสิทธิการเมือง ขอฟังข้อเท็จจริงก่อนดำเนินทางกฎหมายกลับ ชี้รัฐบาลเฉพาะกาลไม่สามารถทำได้จริง จวก สนช.เขียนกม.คิดเทียบยศพล.ต.เท่าอธิบดีทำเพื่ออะไร

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.)ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีในการตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลว่า ต้องถามว่ารัฐบาลเฉพาะกาลมีความหมายอย่างไร ตนไม่เข้าใจจุดประสงค์ว่าเป็นอย่างไร ก็ต้องถามพล.อ.ชวลิต หากระบุว่าให้รัฐบาลเฉพาะกาลมีหน้าที่แก้ปัญหาเฉพาะเรื่องโดยใช้เวลา 5 เดือน 6 เดือนหรือ 8 เดือนก่อนกลับมาสู่การเลือกตั้งปกติ ก็แสดงว่าต้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกจากรัฐบาลใช่หรือไม่ แล้วจึงตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล แต่พล.อ.ประยุทธ์ยอมลาออกหรือไม่ ส่วนใหญ่เรื่องนี้ ชื่อมันบอกอยู่ว่าเป็นเรื่องเฉพาะหน้า เป็นเรื่องชั่วคราว เป็นเรื่องเพื่อให้ประคับประคองอะไรไว้สักระยะ แล้วต้องมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ แต่ในความเป็นจริงคงไม่สามารถทำได้เพราะพล.อ.ประยุทธ์จะยอมลงจากอำนาจหรือ ส่วนการตั้งพรรคการเมืองของคสช.จากนั้น บทเรียนในอดีตก็มีให้เห็นหลายสมัยว่าการยึดอำนาจมาแล้วมาตั้งพรรคต่อ ไม่เคยมีพรรคไหนประสบความสำเร็จเลย อาจจะตั้งได้สักระยะหนึ่งก็แตกกระจาย

นายชูศักดิ์ กล่าวกรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)จะยกร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเปรียบเทียบตำแหน่งของข้าราชการทหารและข้าราชการพลเรือนว่า ทำให้เกิดความคิดว่าท้ายที่สุดจะมีอธิบดีเต็มไปหมดเลยหรือไม่ ต้องคิดว่าเรื่องนี้ทำเพื่อวัตถุประสงค์อะไรเพื่อเทียบตำแหน่ง หรือเพื่อให้เกิดการบังคับบัญชา เท่าที่จำได้ในอดีตสำนักก.พ. น่าจะเป็นผู้หาข้อยุติตีความในเรื่องนี้ว่าตำแหน่งควรจะเป็นอย่างไร เทียบเท่ากันหรือไม่ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำเพื่อเอาคนของคสช.มาอยู่ในองค์กรอิสระหรือไม่นั้น ก็ต้องถามผู้ดำเนินการว่าทำเพื่ออะไรและสุดท้ายข้อเท็จจริงจะปรากฏขึ้นเอง

เมื่อถามว่ากรณีที่คสช.แจ้งเอาผิดกับแกนนำพรรคพท.จะเป็นเหตุนำไปสู่การยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนมองว่าการดำเนินคดีคงไม่ถึงขั้นนั้น กฎหมายพรรคการเมืองในขณะนี้เรื่องการยุบพรรคแคบกว่าเดิมมาก เขาคงเห็นว่าฟุ่มเฟือยเกินไปก็เลยตัดออกเยอะ ซึ่งตนไม่ได้วิตกกังวลอะไร ดูแล้วไม่น่าจะไปถึงขั้นตัดสิทธิทางการเมือง ส่วนการเข้าชี้แจงต่อกองปราบปรามในวันที่ 21 พฤษภาคมนั้น เราจะไปรับทราบข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงที่แจ้งข้อหาเราสมเหตุ สมผลหรือไม่ ส่วนที่ระบุว่าหากเจ้าหน้าที่ดำเนินการไม่สมเหตุสมผลจะฟ้องกลับนั้น ก็ต้องขอไปดูก่อนว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับเราสมเหตุสมผลหรือไม่ มีข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใดหรือเกินความเป็นจริงหรือไม่ ถ้าดูแล้วไม่มีข้อเท็จจริง เกินความเป็นจริงเราก็อาจจะมาพิจารณาประเด็นตามกฎหมายอีกครั้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image