| ผู้เขียน | เกษมณี นันทรัตนพงศ์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
คนส่วนใหญ่มองเรื่อง “หวย” คือการเสี่ยงโชค แต่ก็มีคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ไม่ได้มองเรื่องหวยแค่เรื่องการเสี่ยงโชค แต่เป็นเครื่องมือการออมเงินชนิดหนึ่ง ด้วยการเล่นหวย
อ่านไม่ผิด และเขียนไม่ผิด เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจาก รศ.ยุวดี ศิริ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยส่งนิสิตเก็บข้อมูลในหลายๆเรื่อง อย่างเรื่องรถพุ่มพวงที่เพิ่งจะโด่งดังไปเมื่อไม่นานนี้ และรวมถึงเรื่องการออมของผู้มีรายได้น้อย กลุ่มอาชีพอิสระอย่างพ่อค้าแม่ค้า มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ ที่ยังอาศัยอยู่ในบ้านเช่า หรือบ้านเอื้ออาทร
นอกจากนี้ยังมีวิทยานิพนธ์อีกหลายแหล่งว่าด้วยเรื่องการออมเงินเพื่อซื้อที่อาศัย ต่างชี้ให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีระบบการออมเงินเพื่อที่อยู่อาศัย แต่พบว่าจะมีรูปแบบการจัดเก็บเงินคล้ายๆเป็นการออม คือจัดเก็บเป็นทุนสำรองไว้ใช้ในเวลาฉุกเฉิน ซึ่งไม่ใช่เงินสด แต่จะซื้อทรัพย์สินที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินในรูปแบบการจำนำได้ เช่น ทอง โดยเป็นการสะสมซื้อทีละเล็กผสมน้อย
และอีกรูปแบบหนึ่งของการออมเงินโดยเฉพาะสำหรับผู้มีรายได้น้อย พบว่าส่วนใหญ่เชื่อว่า การแทงหวยหรือเล่นแชร์ คือการเพิ่มมูลค่าของเงินที่มีอยู่
คนกลุ่มนี้คือคนที่เล่นหวยเป็นประจำ วิธีการเล่นคือจะมีเลขเด็ดของตัวเอง มักจะเล่นแค่ 2 ตัว โดยจะตามเล่นเลขเด็ดตัวเดิมไปเรื่อยๆ ซึ่งกลุ่มนี้ต้องถือว่าเป็นกลุ่มหัวไว คิดเลขเร็ว และมีวิธีคิดตามหลักสถิติ เพราะเลขมีทั้งหมด 0-9 หากนับแค่ที่แทง 2 ตัว คือ 0-99 โดยตามตัวเลขเดิมที่ตั้งใจไว้ ยังไงก็ต้องถูก จะช้าหรือเร็วแค่นั้น
ถามว่าคิดแบบนี้ก็ต้องตามซื้อเลขเดิมๆ ต้นทุนซื้อจะคุ้มกำไรหรือไม่ คำอธิบายคือ หากแทงหวย 2 ตัวในราคา 1 บาท หากถูกจะได้ 60 บาท นั่นหมายความว่าลงทุน 1 บาท สามารถลงทุนแทงหวยได้ถึง 60 ครั้ง หากเลขถูกครั้งที่ 60 ถือว่าเสมอตัว ไม่ขาดทุน-กำไร
แต่เซียนหวยบอกว่าหากตามเลขตัวเดิมทุกงวด ตามสถิติการหมุนเลขหวยมักจะใช้เวลาหมุนรอบกลับมาที่เดิม ไม่เกิน 20 ครั้ง นั่นหมายความว่า ลงทุน 1 บาท ตามเลขเดิมครั้งที่ 20 ก็จะถูกหวย 60 บาท เท่ากับกำไรแล้ว 40 บาท
แต่ข้อมูลล่าสุดจากเจ้ามือหวยบอกว่าสมัยก่อนคนเล่นหวยกลุ่มฐานรากนิยมแทงเลข 2 ตัว แต่ปัจจุบันนิยมแทง 3 ตัว เพราะได้ผลตอบแทนที่สูงถึง 500 บาท
ส่วนสถิติดังว่าจะศักดิ์สิทธิ์ แม่นยำขนาดไหน คงต้องลองกันเอาเอง
