อินฟราฟัน : รถไฟวิ่งเองสายสีแดง : นายขันตี

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเป็นผู้เดินรถรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันเอง ภายหลังก่อสร้างเสร็จในเดือนมิถุนายน 2563 และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เดือนตุลาคม 2563

โดยจะตั้ง 2 บริษัทลูกขึ้นมาเพื่อเดินรถ ในลักษณะการอัพเกรดหรือยกระดับบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องยุบบริษัทหลังจากโอนโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ไปอยู่ภายใต้โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน คือ สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภาเรียบร้อยแล้ว โดย รฟท.จะขอเงินประเดิมจากรัฐบาลเพื่อเป็นทุนจะทะเบียนของบริษัทใหม่ประมาณ 3 พันล้านบาท และจะมีพนักงานในปีเริ่มต้นประมาณ 600 คน

เบื้องต้นคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ประเมินจำนวนผู้โดยสารที่จะใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงในช่วงเริ่มต้นไว้ไม่น้อยกว่าวันละ 5 หมื่นคน ขณะที่การคำนวณของฝ่ายบริหาร รฟท.ได้ประเมินจุดคุ้มทุน จะต้องมีผู้ใช้บริการไม่น้อยกว่าวันละ 7 หมื่นคน ถึง 8 หมื่นคน

ส่วนอัตราค่าโดยสารไม่รวมโปรโมชั่นในช่วงเปิดให้บริการจะมีราคาเริ่มต้นที่ 14 บาท สูงสุดไม่เกิน 45 บาท ขณะที่กำไร รฟท.คาดว่าจะสามารถทำได้ในปีที่ 6-7 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะต้องมีผู้โดยสารไม่น้อยกว่าวันละ 1.2 แสนคน โดยรัฐบาลได้ให้เวลา 5 ปี เพื่อวัดประเมินผลหรือเคพีไอว่าประสบผลสำเร็จหรือไม่ ก่อนที่จะพิจารณาว่าควรจะให้ รฟท.บริหารต่อไปหรือไม่ ขณะที่ รฟท.คาดหวังว่ารถไฟฟ้าสายสีแดงจะเป็นอนาคตที่ทำให้พลิกฟื้นกลับมามีกำไรได้

Advertisement

ด้านความคืบหน้าในการจัดหาขบวนรถโดยสารมาให้บริการนั้น ได้สั่งรถไปแล้ว 130 ตู้ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะส่งมอบรถได้ปลายปี 2562 ขณะที่ภาพรวมการก่อสร้าง ณ เดือนพฤษภาคม 2561 สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง มีความคืบ 70.58% ล่าช้ากว่าแผน 1% เฉพาะงานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ คืบหน้าประมาณ 50% โดย รฟท.มั่นใจว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2562
สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงบางซื่อ-รังสิต คืบหน้า 97.94% ล่าช้ากว่าแผน 2% และสัญญาที่ 3 งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งการจัดหาตู้รถไฟฟ้าตลอดเส้นทางบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน คืบหน้า 28.95% ล่าช้ากว่าแผน 25.65%

หากบริหารจัดการได้ดีจริง ก็เชื่อมั่นว่าผู้โดยสารจะทะลุเป้าแน่นอน!!

นายขันตี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image