เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโรงแรมเถื่อนระดับจังหวัด เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดแจ้งความดำเนินคดีอาญากับโรงแรม 10 แห่งที่ อ.หัวหิน ประกอบด้วย โรงแรมกิตินันทะกรณ์, เดอะซีเคร็ต การ์เด้น หัวหิน, ซิติน ลอฟท์ หัวหิน, รอยัล เอ็กซ์เพรส หัวหิน, วีรวัลย์ แอท หัวหิน, วี ลิฟวิ่ง หัวหิน, ฮิลล์ไซด์ รีสอร์ท แอนด์ อพาร์ทเม้นท์, เพิร์ล แอท หัวหิน, ชีวาใส และชีวาใส รีสอร์ท ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ใช้เอกสารราชการเป็นเท็จ และเปิดโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงแรม 2547 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่พบว่าโรงแรมทุกแห่งยังเปิดให้บริการตามปกติ เนื่องจากมีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสั่งปิดกิจการ ทำให้มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร ที่สำคัญกรณีดังกล่าวได้รับความสนใจจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้รายงานความคืบหน้าทุกระยะ เพื่อไม่ให้โรงแรมเถื่อนมีผลกระทบกับการท่องเที่ยวและความปลอดภัยของผู้รับบริการ
“มีการประชุมคณะกรรมการจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่ามีช่องทางในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปิดโรงแรมทั้ง 10 แห่ง ไม่ปล่อยให้ทำธุรกิจเย้ยกฎหมาย ทั้งการใช้ประมวลกฎหมายอาญาจากข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ตามอำนาจของเจ้าพนักงานท้องถิ่นของเทศบาลหัวหิน และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หินเหล็กไฟ เนื่องจากโรงแรมที่มีใบอนุญาตปลอมขออนุญาตสร้างเป็นที่พักอาศัย ไม่ได้ยื่นอนุญาตขอก่อสร้างโรงแรม ยืนยันว่าการดำเนินการต้องรอบคอบรัดกุม เนื่องจากผู้ประกอบการอ้างว่ามีใบอนุญาต ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่ทำให้ดำเนินการได้ล่าช้า ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมบางแห่งยอมรับว่า ไม่มีเจตนาในการใช้ใบอนุญาตปลอม และเจ้าของโรงแรมบางแห่งมีเจตนาร่วมปลอมใบอนุญาตกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 2 รายที่ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง” นายพงษ์พันธ์ กล่าว
มีรายงานว่า ขณะนี้เทศบาลเมืองหัวหินและ อบต.หินเหล็กไฟ ทำหนังสือถึงเจ้าของโรงแรมทั้ง 10 แห่ง ที่อ้างว่ามีใบอนุญาตโรงแรม แต่ตรวจสอบพบว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารเป็นที่พักอาศัย และนำอาคารเปิดกิจการโรงแรมให้พักรายวัน มีความผิดใช้อาคารผิดประเภท ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 โดยเทศบาลและ อบต. ขอให้ผู้เกี่ยวข้องนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง โดยเฉพาะในอนุญาตก่อสร้างอาคาร หรือ อ.1 ใบอนุญาตเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารหรือ อ.6 ยื่นให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจสอบภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งจะครบกำหนดในสัปดาห์หน้า หากไม่ดำเนินการยื่นเอกสารหรือมีเอกสารไม่ครบถ้วน เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะมีคำสั่งระงับใช้อาคารทันที
