สกู๊ปหน้า 1 จากขนมจีนคลุกน้ำปลา ถึงมื้อเที่ยง ร.ร.กรุง

มีการเผยแพร่คลิปโรงเรียนแห่งหนึ่งจัดอาหารกลางวันให้เด็กกินเป็นเมนูขนมจีนคลุกน้ำปลา ซึ่งไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ จนเกิดการตรวจสอบไปยังโรงเรียนในท้องถิ่นอื่นๆ ว่ามีการจัดอาหารกลางวันในลักษณะดังกล่าวอีกหรือไม่ และเข้าข่ายการทุจริตค่าอาหารกลางวันของเด็กหรือไม่นั้น

ขณะที่กระแสข่าวนี้กำลังดังครึกโครม กลับพบว่าในค่าอาหารกลางวันที่ให้เด็กกินฟรีจำนวน 20 บาทต่อคนต่อวัน ที่ทุกท้องถิ่นได้เท่ากัน เมื่อไปดูที่ท้องถิ่นอย่าง กรุงเทพมหานครŽ หรือ กทม. ในบางมื้อเด็กโรงเรียนสังกัด กทม.ทั้ง 437 แห่ง ได้กินขนมจีน แต่ไม่ใช่ขนมจีนคลุกน้ำปลา เป็นขนมจีนน้ำยา บวกกับขนมหวาน หรือผลไม้ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ แถมยังได้อาหารมื้อเช้าเพิ่มอีก 1 มื้อ เรียกว่า กินฟรีŽ วันละ 2 มื้อ ทุกวันจันทร์-ศุกร์

อย่างเช่นที่โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร กทม. พบว่ามีการให้บริการทั้งอาหารเช้าและอาหารกลางวัน โดย กทม.ได้เพิ่มค่าอาหารเช้าให้อีกหัวละ 10 บาท
รวมเป็นวันละ 30 บาทต่อหัว

Advertisement

นางทรายทอง ตรีสัตยกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ บอกว่า หากโภชนาการดี เด็กจะมีพัฒนาการทางร่างกายและสมองที่ดี สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เดิม กทม.มีเพียงโครงการอาหารกลางวันให้เด็กได้กินอิ่ม แต่มาช่วง 7 ปีหลัง

นางทรายทอง ตรีสัตยกุล

คณะผู้บริหารได้เพิ่มอาหารมื้อเช้าให้อีก 1 มื้อ สรุปคือเด็ก กทม.จะได้กินวันละ 2 มื้อ ซึ่งปัจจุบันมื้อเช้าเฉลี่ยหัวละ 10 บาท ส่วนมื้อกลางวันหัวละ 20 บาท โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์มีนักเรียน 1,600 คน จะได้ค่าอาหารตามรายหัววันละ 30 บาทต่อคน มื้อเช้าจะเน้นอาหารจานเดียว เช่น ข้าวต้ม ชุดอาหารเช้า (ขนมปัง ไข่ดาว หมูแฮม โอวัลติน) สปาเกตตี ข้าวไก่กระเทียม ฯลฯ

“มื้อกลางวัน เช่น ข้าวและกับข้าว 2 อย่าง ขนมจีนน้ำยา ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ราดหน้า ฯลฯ จะเพิ่มขนมหวาน หรือผลไม้ตามฤดูกาลให้ด้วย เด็กทุกคนสามารถเติมได้จนกว่าจะอิ่มทุกมื้อ แต่เด็กจะกินทุกคนหรือไม่ โรงเรียนไม่ได้บังคับ เพราะเด็กบางคนมื้อเช้าอาจจะกินมาจากที่บ้านแล้ว ที่สำคัญโรงอาหารของโรงเรียนก็มีร้านค้าให้บริการด้วย แต่ส่วนใหญ่เด็กจะกินอาหารของโรงเรียน เพราะชอบรสชาติ และประหยัดเงินผู้ปกครองŽ ” นางทรายทองกล่าว

Advertisement

ในส่วนของการจัดสรรเมนูอาหารนั้น นางทรายทองกล่าวว่า แต่ละโรงเรียนจะมีการวางแผนจัดเตรียมเมนูอาหารให้เด็กล่วงหน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะทำรายการอาหารเป็นรายเดือน และประเมินค่าใช้จ่ายเป็นรายเทอม แต่ละสัปดาห์ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ที่โรงอาหารจะมีตารางแจ้งรายการอาหารทั้ง 2 มื้อ ให้เด็กรับทราบล่วงหน้า

นอกจากนี้ ในการกำหนดรายการอาหารในแต่ละมื้อ จะมีครูด้านโภชนาการ แม่ครัว มาช่วยกันกำหนดเมนูอาหารที่เน้นให้เด็กได้คุณค่าทางสารอาหารครบ 5 หมู่ เช่น กำหนดว่าใน 1 สัปดาห์ จะต้องมีเมนูที่เป็นกะทิได้ไม่เกิน 2 มื้อ รสชาติอาหารต้องไม่หวานจัด มันจัด หรือเค็มจัด ต้องมีผัก ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น สับปะรด แตงโม มะละกอ กล้วย ลิ้นจี่ เงาะ เป็นต้น และหมุนเวียนเมนูเพื่อไม่ให้เด็กเบื่อ

อีกทั้งทุกมื้อจะมีครูเวรประจำวันไปตรวจสอบคุณภาพอาหาร พร้อมทั้งช่วยแม่ครัวตักเสิร์ฟตลอดเวลาที่เด็กลงไปกิน เพื่อให้ครูและนักเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กันŽ นางทรายทองกล่าว และว่า ยิ่งไปกว่านั้น ยังปลูกฝังให้เด็กทุกคนช่วยเหลือตัวเองและมีระเบียบวินัย โดยหลังกินเสร็จจะต้องเก็บจานไปล้าง ซึ่งจะมีอ่างล้างจานเตรียมไว้รองรับด้วย

ไม่เพียงแค่โรงเรียนจัดเตรียมอาหารไว้ให้เด็กกินเท่านั้น แต่ครูและบุคลากรในโรงเรียนจำนวนหนึ่งก็กินอาหารแบบเดียวกับเด็กเช่นกัน โดยครูจะจ่ายค่าอาหารหัวละ 400 บาทต่อเดือน ได้กินอาหารทั้ง 2 มื้อแบบเดียวกับเด็กเช่นกัน

ทั้งนี้ จากการสอบถามความพึงพอใจในโครงการอาหารอาหารเช้าและอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนทุกระดับชั้น ส่วนใหญ่พึงพอใจกับเมนูอาหารที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้ เพราะรสชาติอร่อย และได้กินจนอิ่ม อีกทั้งประหยัดเงินค่าอาหาร 2 มื้อ

น.ส.ธวชินี คุมภัย หรือน้องมายด์ นักเรียนชั้น ม.6 กล่าวว่า กินอาหารของโรงเรียนมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ยอมรับว่าบางครั้งก็มีเบื่อบ้าง แต่ก็มีทางเลือกเพราะในโรงอาหารก็มีร้านขายอาหาร แต่ซื้อกินไม่บ่อยเพราะโรงเรียนจัดให้นักเรียนทุกคนกินฟรีจนอิ่ม

“หนูชอบอาหารของโรงเรียน เพราะอร่อย สะอาด และมั่นใจว่าได้ประโยชน์ ที่สำคัญทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้อย่างน้อยมื้อละ 25 บาท”Ž น้องมายด์กล่าว

ขณะที่ น.ส.สุดารัตน์ ศรีปัตถา หรือน้องส้มส้ม นักเรียนชั้น ม.4 กล่าวว่า ได้กินอาหารเช้าและอาหารกลางวันของโรงเรียนทุกวัน เพราะชอบที่รสชาติอร่อย ถูกปากจนบางเมนูต้องขอเติมรอบที่ 2 และว่า เมื่อทราบข่าวว่ามีบางโรงเรียนจัดอาหารกลางวันให้เด็กกินขนมจีนคลุกน้ำปลา รู้สึกสงสัยว่าทำไมครูที่โรงเรียนเขาทำแบบนั้นได้

ด้าน ด.ช.สุวิจักขณ์ จ่าผาย นักเรียนชั้น ม.2 กล่าวว่า ชอบอาหารฟรีของโรงเรียนมาก โดยเฉพาะเมนูข้าวผัดหมู ข้าวมันไก่ เพราะอร่อยกว่าที่ซื้อจากร้านในโรงอาหาร ที่สำคัญกินของโรงเรียนได้เติมจนอิ่มทุกมื้อ แต่ถ้าซื้อกินอยากเติมต้องจ่ายเงิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image