รมว.แรงงานทำงานวันแรก ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์ฯเมียนมา สมุทรปราการ

เมื่อเวลา 06.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางเข้ามาทำงานที่กระทรวงแรงงานเป็นวันแรก หลังจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 พฤศจิกายน พล.ต.อ.อดุลย์ ได้เดินทางเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง โดยภารกิจแรกหลังเข้ารับตำแหน่งนั้นได้มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจศูนย์พิสูจน์สัญชาติแรงงานเมียนมา จ.สมุทรปราการ

ต่อมา เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อดุลย์พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงานเดินทางไปยังศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคลสัญชาติเมียนมา จ.สมุทรปราการ ตั้งอยู่บริเวณถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยได้เดินตรวจเยี่ยมศูนย์ฯ อย่างละเอียดในทุกขั้นตอนการออกเอกสาร และเข้าทักทายแรงงานเมียนมาที่เดินทางมาออกเอกสารภายในศูนย์อย่างใกล้ชิด ก่อนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

โดยิพล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า จากการตรวจสอบการทำงานของศูนย์ฯ ในเบื้องต้นพบขั้นตอนการออกเอกสารใช้เวลามาก เมื่อเทียบกับจำนวนแรงงานทั้งหมด 2 ล้านคน ได้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติเพียง 8 แสนคนเท่านั้น เหลือการพิสูจน์สัญชาติอีก 1.2 ล้านคน สำหรับศูนย์ตรวจสัญชาติรวม 9 ศูนย์นั้น ปัญหาที่พบคือ มีขั้นตอนล่าช้า จำเป็นต้องมีแนวทางเพิ่มเติม อย่างการบริการจัดการระบบที่ดี เพื่อให้ระบบและขั้นตอนต่างๆ ใช้เวลาได้อย่างรวดเร็วและอำนวยความสะดวกแรงงานให้มีประสิทธิภาพ สำหรับศูนย์พิสูจน์สัญชาติฯ ภายในได้มีการให้บริการหลายส่วน ตั้งแต่การเก็บหลักฐาน รวบรวมเอกสาร และตรวจสุขภาพ จำเป็นต้องปรับปรุงระบบทั้งหมดให้เป็นเอกภาพ เพื่อให้เสร็จสิ้นภายในกรอบเวลาคือ 31 มีนาคม 2561 เพราะหากล่าช้าก็คงเกิดปัญหาอีก ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องแก้ไขในเบื้องต้นคือ ต้องมีประธานบริหารจัดการศูนย์แรงงาน โดยได้ตั้งนายเชิดศักดิ์ วิสุทธิกุล จัดหางานจังหวัดสมุทรปาการ เพื่อจัดระบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การพิจารณาออกบัตรคิวเข้าสู่กระบวนการของทางการพม่า ตลอดจนการปรับปรุงสถานที่ให้สะอาดเรียบร้อย มีห้องสุขาบริการ

Advertisement

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวอีกว่า “ที่ผ่านมาพบงานที่มีบัตรคิวใช้เวลาพิสูจน์สัญชาติถึง 13-14 ชั่วโมง แรงงานที่ไม่มีบัตรคิวใช้เวลา 2-3 วัน ส่วนปัญหาการขายคิวจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข”

เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่พม่าได้เข้ามาดำเนินการส่วนใดบ้าง พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ทางการพม่าได้เข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐาาน การตรวจสอบข้อมูล ส่วนไทยก็ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ด้านสาธารณสุข หากถามว่าจะมีการคาดโทษเจ้าพนักงานหากทำงานไม่ตรงตามกรอบเวลา 31 มีนาคมนั้น อย่างไรก็ตาม รับปากว่าจะทำให้ทัน ส่วนการคาดโทษเจ้าพนักงานนั้นจะขอพิจารณาก่อน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image