| ผู้เขียน | จุไรรัตน์ พงศาภิชาติ |
|---|
หลัง “กฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548” ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถูกใช้มานานกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ที่บัญญัติให้นักเรียน และนักศึกษาต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียน หรือสถานศึกษา และตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
แต่ปัจจุบัน อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ล้าสมัย ไม่ทันต่อสถานการณ์ หรือการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
ซึ่งอาจตามไม่ทันความคิด ความอ่าน หรือพฤติกรรม ของนักเรียน และนักศึกษาในยุคนี้ ที่อาจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ล้ำไปไกลกว่าผู้ใหญ่จะวิ่งไล่ทัน
ศธ.จึงเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรับแก้สาระบางส่วน เพื่ออุดช่องโหว่ต่างๆ ให้ครอบคลุม เพื่อให้สถานศึกษาสามารถกำกับ ดูแล ควบคุมพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสมของนักเรียน และนักศึกษา ได้อย่างเต็มที่
ล่าสุด ครม.มีมติเห็นชอบให้ ศธ.แก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาของกฎกระทรวงดังกล่าว
ซึ่งสาระสำคัญที่ปรับแก้ของร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับลักษณะความประพฤติต้องห้ามของนักเรียน และนักศึกษา ได้แก่
1.ห้ามการรวมกลุ่ม มั่วสุม ที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
2.ห้ามแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม จากเดิมที่ห้ามเฉพาะในที่สาธารณะ เป็นการห้ามไม่จำกัดสถานที่ และเพิ่มเติมห้ามกระทำการลามกอนาจาร
3.แก้ไขลักษณะความประพฤติที่ห้ามกระทำเกี่ยวกับการออกนอกสถานที่พัก เพื่อเที่ยวเตร่ หรือรวมกลุ่ม ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตัวเอง หรือผู้อื่น จากเดิมห้ามเฉพาะเวลากลางคืน เป็นการห้ามไม่จำกัดเวลา
โดยฝ่ายหนึ่งเห็นว่า กฎกระทรวงฉบับนี้จะช่วยให้ ศธ.กำกับดูแล คุ้มครอง เรื่องความปลอดภัยของนักเรียน และนักศึกษา ได้เต็มที่ขึ้น
รวมถึง กรณีนักเรียน และนักศึกษา ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
อย่างนักวิชาการจากรั้วจามจุรี ที่ยกมือเชียร์เต็มที่ เพราะมีงานวิจัยเกี่้ยวกับปัญหาความสัมพันธ์ชู้สาว พบเด็กและเยาวชน ประมาณ 1.1 แสนคน อายุ 11-15 ปี ต่ำสุด 8 ปี ที่มีปัญหาท้อง แท้ง ทิ้ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ
แต่ ศธ.จำเป็นต้องบังคับใช้อย่างจริงจัง…
ขณะที่บางส่วนมองว่ากฎหมายฉบับนี้ อาจ “ล่วงละเมิด” สิทธิส่วนบุคคลของนักเรียน และนักศึกษา หรือไม่??
โดยเฉพาะกลุ่มนิสิตนักศึกษา ที่เห็นว่าเป็นการ “ลิดรอน” สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก
อย่างนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) มองว่าเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการห้ามรวมกลุ่ม มั่วสุม ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งอาจมีปัญหาเรื่องการตีความ
หรือกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศ (สนท.) ที่บุกไปยื่นหนังสือที่ ศธ.เห็นว่าร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีเนื้อหากำกวม สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นเครื่องมือสำหรับปิดกั้นสิทธิทางการเมือง และเสรีภาพการแสดงออก
โดยเรียกร้องให้รัฐบาล และ ศธ. “ยกเลิก” ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว
หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็จะกลับมาทวงถามอีกครั้ง
แม้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.และผู้บริหาร ศธ.จะนั่งยัน นอนยัน ว่ากฎกระทรวงดังกล่าว เป็นเพียงการปรับแก้จากของเดิมให้ทันสมัยขึ้น
เพื่อสกัดปัญหาเรื่องของนักเรียน นักศึกษา ที่รวมกลุ่มกันมั่วสุมเสพยา มั่วสุมทางเพศ หรือรวมกลุ่มกันแว้น ฯลฯ
ไม่เกี่ยวกับความพยายามสกัดไม่ให้นิสิตนักศึกษารวมกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งในส่วนนี้ มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำกับดูแลอยู่แล้ว
ต้องจับตาว่า เมื่อร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้การดูแลนักเรียน และนักศึกษา ทำได้ดียิ่งขึ้น…
หรือลิดรอนสิทธิ อย่างที่นิสิตนักศึกษาหวาดหวั่น!!
