ผู้เขียน | ภัทรมณี ไพนาค |
---|
เป็นเรื่องเป็นราวดราม่าสนั่นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อีกครั้ง!!
เมื่อ น้องแบม-น.ส.ปณิดา ยศปัญญา ฮีโร่นักศึกษาที่ออกมาเปิดโปงขบวนการทุจริตเงินคนจน จนมีการขยายผลตรวจสอบทุจริตไปทั่วประเทศ และนำมาซึ่งการ “ไล่ออก” บิ๊กพม.พร้อมพวกรวม 11 คน และอีก 5 คนถูกให้ออก ได้ออกมาเปิดเผยว่า ภายหลังจากเรียนจบแล้ว กระทรวงพม. ผิดสัญญา ไม่รับเธอเข้าทำงาน ทั้งที่เคยรับปากไว้ต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อเรียนจบจะรับเข้าทำงานและถ้าพร้อมทำงานให้โทรศัพท์แจ้งได้ ซึ่งผู้ใหญ่ในกระทรวง พม.ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้
ซึ่งเมื่อน้องแบมเรียนจบ ก็รีบโทรศัพท์หา พร้อมแจ้งความประสงค์ว่า อยากทำงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น
แต่คำตอบที่ได้คือ ถ้ามีประกาศรับสมัครคนเข้าทำงานให้สมัครเข้ามาตามขั้นตอน และสอบตามขั้นตอน แต่ยังไม่ทราบว่าจะประกาศรับสมัครเมื่อใด
น้องแบมทั้งผิดหวังทั้งน้อยใจ และรู้สึกว่า ผู้ใหญ่ไม่ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ ซึ่งปัจจุบันเธอและครอบครัวยังต้องอยู่อย่างระมัดระวังตัว เพราะยังหวาดระแวง เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นมิตรหรือแอบแฝงอะไรอยู่หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นางสุภัชชา สุทธิพล ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะโฆษกพม. ก็ออกมาชี้แจงว่า ไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่คนไหนของพม.ที่ไปรับปาก และได้พูดกับน้องแบมไปว่าอย่างไร แต่ตามหลักการหากอยากเป็นข้าราชการสังกัดพม. ต้องสอบบรรจุตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งเริ่มแรกจะต้องสอบภาค ก.ให้ผ่าน จากนั้นจะต้องสอบภาค ข.ที่กระทรวงหรือกรมเปิดสอบให้ผ่าน ก่อนสอบสัมภาษณ์ ซึ่งที่ผ่านมา พม.ใช้ระบบนี้มาตลอดในการรับข้าราชการพลเรือน
“การสอบก.พ.ถือเป็นการสอบที่ต้องใช้ความสามารถของตนเอง คำสัญญาว่าจะรับน้องเข้าทำงานก็ไม่สามารถล่วงล้ำได้ เว้นแต่ในส่วนการสอบภาค ข.และสอบสัมภาษณ์ ที่อาจทำให้น้องอาจมีภาษีดีกว่าผู้สอบคนอื่นๆ เพราะเคยฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจึงมีประสบการณ์มากกว่า และตอบคำถามได้ แต่คงไม่ใช่การไปลัดขั้นตอน เพราะอาจทำให้เกิดข้อครหาจากผู้ที่ขึ้นบัญชีรอเรียกบรรจุได้” โฆษกพม.กล่าว
จากกรณีดังกล่าวนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด ส่วนใหญ่ “เข้าเนื้อพม.ทั้งสิ้น”
-พม.ไม่กล้ารับหรอก ขืนรับไปโดนขุดอีกเยอะ
-ทำถูกต้องแล้วค่ะ ทำตามขั้นตอนจะได้ไม่มีคำครหา สุดยอด
-จริงๆ มันมีช่องทางอยู่นะ คือ ให้รับเป็นลูกจ้างชั่วคราวก่อน หลังจากนั้นค่อยให้น้องเขาไปสอบ ภาค ก ให้ผ่าน ปีหน้าค่อยบรรจุเป็นข้าราชการก็ได้
-55555+จะมาเป็นได้ไง เดี๋ยวมาแฉองค์กรเขาอีก ใครจะโง่ให้เข้ามาง่ายๆ55555
-ปากพล่อยไปสัญญาเกาะกระแสเพื่อเอาหน้าทั้งๆที่รู้ว่าทำไม่ได้เรียกว่าอะไรดี
-ตอนมีกระแสรับปาก พอเงียบต้องสอบ
-นี่แหละประเทศไทยสังคมเอาหน้า
-ทีพวกนักกีฬา ทำไมถึงติดยศตำรวจทหารได้ น่าจะไล่ไปสอบบ้าง
-คนเขามีคุณงามความดีให้กับประเทศ คิดบ้างมั้ย
-แถ เลือกปฏิบัติ เอาหน้า เกาะกระแส และไม่จริงใจ ครบเครื่องจริงๆ
-สอบเข้าทำงานเองน้อง มันถึงจะภาคภูมิใจในการทำงาน ดีกว่าให้คนอื่นมาว่าทีหลัง ว่าเข้าทำงานได้เพราะการเปิดเผยทุจริต นั่นคือเป็นสิ่งที่น้องทำดีแล้วถ้าเราเข้าทำงานอย่างผู้ใหญ่รับปากไว้ น้องจะต้องมีบุญคุณเป็นระบบอุปถัมท์อยู่ดี
จริงๆ ถ้าการทำตามขั้นตอนไม่มีทางลัดเป็นเรื่องที่ไม่เสียหาย แต่ที่ไม่น่าทำคือการไปรับปากให้ความหวังคน และสุดท้ายทำไม่ได้
น้องแบมออกมาแฉเรื่องทุจริตที่เกิดจากความไม่ซื่อสัตย์ แต่สุดท้ายก็ถูกความคิดไม่ซื่อของผู้ใหญ่ทำร้ายอีกครั้ง
เจออย่างนี้ มันก็เสื่อมศรัทธา ขนาดผู้ใหญ่ของบ้านของเมือง ยังเบี้ยว และจะหวังอะไรจากสังคม
อย่าให้เรื่องนี้ เข้าทำนอง “คนดีไม่มีที่อยู่” ทั้งที่ ประเทศไทยต้องการคนดีเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศ
อย่างไรก็ตาม พอพูดถึงเรื่อง “ทุจริตเงินคนจน” ตอนนี้ เรื่องการตรวจสอบผู้ทุจริตก็ดู “เงียบกริบ” เหลือเกิน
ไม่รู้ว่า ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว…
วงในว่า นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ปิดปากเงียบ หนีสื่อ ไม่ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งที่ สังคมยังเฝ้าดูผลสอบของผู้ทุจริตที่ยังไม่ได้ข้อสรุปอีกเกือบเป็น 100 กว่ารายที่ปปท.ส่งมาให้สอบ ก็ไม่รู้ว่า ปีนี้ ผลการสอบจะเสร็จไหม!!