จับตา ‘ก้องศักด ยอดมณี’ ผู้นำรุ่นใหม่ไฟแรงค่ายหัวหมาก

วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นวันดีเดย์การเข้ารับตำแหน่งผู้นำค่ายหัวหมากของ “ดร.ก้องศักด ยอดมณี” ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) คนใหม่

การรับตำแหน่งครั้งนี้ของ “ดร.ก้อง” หรือ “บิ๊กก้อง” ถูกจับตามองจากคนในแวดวงกีฬาเป็นพิเศษ เหตุเพราะการมาของเขาต้องถือว่า “เซอร์ไพรส์” ตั้งแต่ต้น

ก้องศักด ยอดมณี เป็น 1 ใน 8 ผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าการ กกท. เพื่อมารับช่วงต่อจาก สกล วรรณพงษ์ ที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งก่อนกระบวนการสรรหาจะสิ้นสุด ดร.นักเรียนนอกคนนี้ถือเป็นม้านอกสายตาของบรรดากูรูหรือสื่อมวลชนเพราะประวัติการทำงานในอดีตไม่ค่อยเกี่ยวพันกับแวดวงกีฬานัก แม้ในแง่โปรไฟล์โดยรวมจะถือว่าไม่ธรรมดาก็ตาม

ก้องศักด ยอดมณี เดิมชื่อ พงษ์ศักดิ์ ยอดมณี เป็นบุตรชายคนที่ 2 จากทั้งหมด 3 คน ของ ดร.สุวิทย์ ยอดมณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี บุตรสาว จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของประเทศไทย

Advertisement

ประวัติด้านการศึกษา จบปริญญาตรี นิติศาสตร์ (น.บ.) เกียรตินิยมอันดับ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / ปริญญาโท ด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ / ปริญญาเอก สาขาการจัดการกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ประวัติการทำงาน เคยทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย, เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, เคยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 5 (บางเขน สายไหม ดอนเมือง) ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนงานด้านกีฬานั้นเคยสัมผัสงานแบบผิวเผินสมัยเป็นที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. กำกับดูแลงานด้านการกีฬาและเยาวชน รวมถึงเคยเป็นกรรมการสโมสรฟุตบอลราชนาวี และเคยริเริ่มโครงการคลินิกวิทยาศาสตร์การกีฬาเคลื่อนที่ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อทดสอบสภาพร่างกายและให้คำแนะนำด้านสุขภาพแก่ประชาชน

Advertisement

วัดกันเฉพาะประวัติการทำงานข้างต้น ถือว่าบิ๊กก้องเป็นคนนอกวงการกีฬาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับแคทดิเดตอีกหลายๆ คน และด้วยอายุที่ค่อนข้างน้อยในวัย 45 ปี การเข้ารับตำแหน่งผู้นำองค์กรรัฐวิสาหกิจหลักด้านกีฬาของประเทศครั้งนี้จึงเป็นด่านทดสอบสำคัญที่ได้รับการจับจ้อง

แน่นอนว่าสิ่งสำคัญในการผ่านด่านในช่วงแรกซึ่งถือเป็นช่วงเรียนรู้งานไปให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถูกต้องตามกฎระเบียบข้อบังคับ คือการมีกุนซือหรือพี่เลี้ยงที่เชื่อใจได้คอยให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ

แว่วมาว่า ก้องศักด ยอดมณี มีทีมงานที่ปรึกษาเตรียมไว้พร้อมสรรพแล้ว ในจำนวนนั้นมีชื่อของ มนตรี ไชยพันธุ์ อดีตรองผู้ว่าการ กกท. และ นนชัย ศานติบุตร อดีตผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน รวมถึงอดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ กกท. ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วรวมอยู่ด้วย ซึ่งประสาคนเคยอยู่ในองค์กรมานาน ถ้าข่าวนี้เป็นจริงก็ย่อมมีผู้ปฏิบัติงานในปัจจุบันที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ในวันเข้ารับตำแหน่ง ผู้ว่าคนหนุ่มไฟแรงประกาศนโยบาย 3 ข้อหลักๆ คือ พัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้าโดยพนักงาน กกท.ทุกคนต้องทำงานอย่างมีความสุข ภายใต้การบริหารงานที่มีธรรมาภิบาล, ประสานงานกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยและสมาคมกีฬาจังหวัด เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณ และเงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติที่เคยมีปัญหามาตลอดเกิดความคล่องตัว และตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาโดยประสานงานกับองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกประเทศ

สำหรับวงการกีฬายุคนี้ นอกจากผลสัมฤทธิ์เรื่องกีฬาเพื่อความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพแล้ว ยังต้องก้าวตามวงการกีฬายุคปัจจุบันที่ผูกพันกับเรื่องธุรกิจชนิดแยกไม่ออกให้ทันอีกด้วย

ดังที่เราได้เห็นจากการเป็นเจ้าภาพจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ที่ จ.บุรีรัมย์ ตามนโยบายของรัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ประเมินตัวเลขผู้ชมโมโตจีพีหนแรกในประวัติศาสตร์แผ่นดินไทยเป็นหลักแสน ถือว่าสอบผ่านในแง่ความสนใจจากแฟนๆ กีฬาความเร็ว ขณะที่ภาคเอกชนอย่างบรรดาแบรนด์จักรยานยนต์เจ้าใหญ่ในประเทศต่างก็ทุ่มสุดตัว สนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ เพื่อดึงดูดแฟนๆ

ก้าวแรกถือว่าผ่านไปอย่างน่าพอใจ สิ่งสำคัญหลังจากนี้คือการรักษามาตรฐานการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน และรักษาฟีดแบ๊กที่ดีจากผู้ชม นักแข่ง รวมถึงเจ้าของการแข่งขันอย่างดอร์นา สปอร์ตส์ ให้ลุล่วงสัญญา 3 ปีที่เซ็นไว้ แล้วมาดูกันว่าหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป

โมเดลที่รัฐช่วยออกทุนก้อนหนึ่งผ่านกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่ดูแลโดย กกท. แล้วภาคเอกชนมาช่วยสมทบทุนส่วนที่เหลือนี้ อาจจะเป็นโมเดลที่นำไปใช้กับการแข่งขันกีฬาสเกลใหญ่อิงภาคธุรกิจในลักษณะเดียวกัน

กกท.ในฐานะผู้เกี่ยวข้องโดยตรงต้องทำความเข้าใจ ศึกษารูปแบบการแข่งขันกีฬาอาชีพระดับนานาชาติที่น่าสนใจเผื่อไว้สำหรับโปรเจกต์ในอนาคต ควบคู่ไปกับการพัฒนากีฬาภายในประเทศตามพันธกิจหลักที่มีอยู่เดิม

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้นำคนใหม่ของค่ายหัวหมาก เพิ่งเริ่มต้นออกสตาร์ตงานด้านกีฬาอย่างจริงจัง ช่วงแรกอาจต้องใช้เวลาในการศึกษางานให้ลึกซึ้ง สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการฟังคำแนะนำดีๆ จากผู้รู้รอบข้างแล้ว คือต้องทำความเข้าใจในเนื้องานให้ถ่องแท้ด้วยตัวเอง บริหารงานองค์กรแบบรู้ลึกและเข้าใจในโครงข่ายสายงานและรายละเอียดของแต่ละหน่วยงานในความรับผิดชอบ รู้จักบริหารคนแจกจ่ายงานให้เหมาะสมกับคุณสมบัติความสามารถ ขณะเดียวกันก็ยึดหลักคุณธรรมโดยมีกฎระเบียบองค์กรเป็นที่ตั้ง

หากมาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เชื่อว่าถึงจะยังใหม่ ก็น่าจะค่อยๆ แก้โจทย์และด่านทดสอบไปได้ทีละเปลาะแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image