เมื่อกล่าวถึงพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-2016 ถือเป็นซีซั่นมหัศจรรย์ของทีมเลสเตอร์ทุบทุกสถิติมากมายของโลกลูกหนังอังกฤษ คว้าแชมป์มาครองด้วยสถิติเล่น 38 นัด แพ้ไป 3 นัดเท่านั้น
นัดแห่งความทรงจำ มีการยกถ้วยฉลองตรงกับนัดที่ 37 เมื่อ 7 พ.ค.2016 เป็นเกมสุดท้ายของแมตช์เหย้า นอกเหนือจากแฟนบอลจะได้ชมทีมชนะเอฟเวอร์ตัน 3-1 แล้ว ยังมีพิธีการมอบถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก ถ้วยใหญ่สุดของสโมสรที่ได้ครั้งแรกในรอบ 132 ปี
ในวันนั้น คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา รวมทั้ง อัยยวัฒน์ ลูกชาย พร้อมเจ้าหน้าที่ของทีมและสตาฟโค้ชต่างยืนปรบมือให้กับนักเตะเลสเตอร์ที่นำโดยเคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือชาวอิตาเลียน ตั้งแต่นำนักเตะออกจากอุโมงค์ขึ้นมาคล้องเหรียญพรีเมียร์ลีกและยกถ้วยฉลองแชมป์ท่ามกลางรอยยิ้ม เสียงต้อนรับอันกึกก้อง
ในช่วงที่นักเตะยกถ้วยฉลองแชมป์ให้ช่างภาพถ่ายภาพตามธรรมเนียนนั้น กล้องทีวีถ่ายทอดสดจับภาพไปที่รานิเอรีได้เรียกคุณวิชัยและอัยยวัฒน์ ที่ขอยืนอยู่วงนอก กำลังปรบมือและปลาบปลื้มในบรรยากาศที่เกิดขึ้นให้เข้าร่วมบรรยากาศยกถ้วยแชมป์กับนักเตะด้วย ก่อนที่ทั้งสองจะเดินมาร่วมฉลองแชมป์
จากวันนั้น เลสเตอร์ กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในพริบตา
น่าเสียดายที่เกมเตะเสมอกับเวสต์แฮม เมื่อหัวค่ำวันเสาร์ที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา จะเป็นนัดสุดท้ายที่คุณวิชัยจะได้ชมเกมของเลสเตอร์ที่เขาปลุกปั้นมา มีการระบุเวลาตกของเฮลิคอปเตอร์ที่ประมาณ 20.37 น. ตามเวลาท้องถิ่นของอังกฤษ
ความผูกพันของคุณวิชัยที่มีต่อนักเตะ พนักงานของสโมสรไปจนถึงชุมชนเมืองเลสเตอร์ เป็นเรื่องที่สร้างความตื้นตันทุกครั้งที่มีการกล่าวถึง เพราะคงหาไม่ได้อีกแล้วที่คนไม่ใช่ชาวเมืองเลสเตอร์จะมาทุ่มเททั้งลงทุนและใจบุญเหลือคณานับ ไม่ว่าจะเป็นนักเตะทั้งอดีตและปัจจุบันที่เคยสัมผัสหรือไม่เคยสัมผัสการพูดคุยกันมาก่อน ต่างยอมรับในน้ำใจและความจริงจัง จริงใจ ที่คุณวิชัยทำไว้ให้กับเมือง
การใช้แฮชแท็ก #TheBoss ในข่าวโลกโซเชียลของสื่ออังกฤษ ทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก เมื่อกล่าวถึงคุณวิชัย เป็นการยอมรับอย่างสนิทใจว่า ความเป็นบอสไม่ใช่แค่ “นาย” กับ “ลูกน้อง” นักเตะเลสเตอร์บางคนบอกว่า บอสคนนี้เปรียบเสมือนคนในครอบครัว บางคนก็บอกว่า บอสคนนี้ไม่ต่างกับคุณพ่อคอยเอาใจใส่และสนับสนุนลูกอยู่เสมอ
บางคนบอกว่า บอสเป็นคน “ใจถึง” กล้าลงทุนกับทีมที่ไม่มีต้นทุนว่าจะประสบความสำเร็จทางด้านลูกหนังเลย แต่ไม่มีอะไรที่บอสคนนี้ทำไม่ได้ ได้ทำในสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ให้เป็นไปได้
สิ่งที่เกิดขึ้นยังช่วยสอน “บทเรียน” อันล้ำค่าให้นักธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ รวมไปถึงผู้บริหารเงินทุนข้ามชาติทั้งโลกได้พึงรับรู้ว่า ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและยืนอยู่ได้ ไม่ใช่ผลกำไรหรือการมุ่งให้พนักงานทำงานทุ่มเทอย่างหนักเท่านั้น แต่ต้องมาจาก “ใจ” ของผู้บริหารที่ต้องเข้าไปนั่งในใจของลูกน้อง เอาใจใส่ชุมชนทำให้ชุมชนน่าอยู่ยิ่งขึ้น
นับเป็นโอกาสอันดีที โคล้ด ปูเอล กุนซือพร้อมสตาฟโค้ชและนักเตะเลสเตอร์ จะตีตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางมาเคารพศพของคุณวิชัยที่วัดเทพศิรินทร์ ระยะทางจากเมืองเลสเตอร์กับกรุงเทพฯ ไปกลับเกือบ 4 หมื่นกิโลเมตร เดินทางหลังจบเกมที่คาร์ดิฟฟ์ในวันที่ 3 พ.ย. เป็นระยะทางที่ทุกคนใจจดใจจ่อที่ต้องการมาเคารพศพเป็นครั้งสุดท้าย มาเพื่อเคารพศพบอส และให้กำลังใจครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” ที่ถือเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของชาวเมืองเลสเตอร์ไปแล้ว
เอมิล เฮสกีย์ คนเลสเตอร์โดยกำเนิด ลงสนามให้เลสเตอร์ในอดีต 154 นัด กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่จะมีประธานสโมสรคนหนึ่งจะเป็นที่รักมากได้ขนาดนี้ สร้างความความสะเทือนใจไปทั้งโลกลูกหนัง เป็นเรื่องง่ายมากที่ไม่ว่าใครก็ออกปากวิจารณ์เจ้าของสโมสรฟุตบอล ใครๆ ก็ทำกันทั้งนั้น แต่สำหรับคุณวิชัยกลับเป็นที่รักของทุกคน เป็นเรื่องเหลือเชื่อในสิ่งที่ประธานสโมสรคนนี้ได้ทำอะไรไว้มากมายไม่ใช่แค่ทีมเลสเตอร์แต่ทั้งเมืองเลสเตอร์
“ผมก็ไปแสดงความไว้อาลัยที่คิงเพาเวอร์ สเตเดียม ได้อ่านโน้ตมากมายของคนที่มาที่นี่ ทั้งลีดส์ ฮัดเดอร์สฟิลด์ นอตติ้งแฮม และลอนดอน ผู้คนหลั่งไหลมาจากทั่วเกาะอังกฤษเพื่อแสดงความไว้อาลัย คงเห็นแล้วว่า ไม่ใช่แค่ชาวเมืองเลสเตอร์เท่านั้น”
นายอุตสาหะ
