ชัยชนะทุลักทุเล “อภิสิทธิ์” สัญญาณถึงเวลาเชนจ์ ‘ปชป.’

ทันทีรู้ว่าผลหยั่งเสียงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ได้รับเลือกเป็นอันดับหนึ่งนั้น ไม่ได้เหนือควาามคาดหมาย

เพราะหลายฝ่ายต่างเชื่อว่า “เดอะมาร์ค” จะได้หวนคือเก้าอี้หัวหน้าพรรคคนที่ 8 แน่นอน

เมื่อพินิจคะแนน อภิสิทธิ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้ 67,505 คะแนน

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้ 57,689 คะแนน

Advertisement

และ”เสี่ยจ้อน”อลงกรณ์ พลบุตร ได้ 2,285 คะแนน

จากยอดผู้มาใช้สิทธิ์ 127,479 คน คิดเป็นร้อยละ 16 ของยอดสมาชิกพรรคทั้งหมด

ต้องแปลกใจคะแนน “หมอวรงค์” ที่รดต้นคอ “อภิสิทธิ์” แค่ 9,816 คะแนนนั้น ไม่ธรรมดา!!

Advertisement

เพราะตอนแรก ใครๆ ก็รู้ว่าศึกชิง”หัวหน้าปชป.”ครั้งนี้ “หมอวรงค์”มวยรอง ไร้ราคา กระดูกคนละเบอร์กับ นักเรียนนอกจากออกซฟอร์ดเมืองผู้ดี ที่ผ่านชื่อชั้นระดับเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

แถมบริษัทรับทำการหยั่งเสียงครั้งนี้ คนใกล้ชิด”หัวหน้ามาร์ค” คือ นายศิริโชค โสภา จัดหามาเป็นคู่สัญญากับปชป. ที่น่าจะมีความได้เปรียบคู่ต่อสู้หรือไม่

หลายคนในพรรคสีฟ้ามีข้อกังขาในความเป็นมืออาชีพหรือไม่

เพราะอุปสรรคทางเทคนิคระหว่างลงคะแนนมีเยอะเหลือเกิน บัตรเสียถึง 32,000 กว่าใบ

มองข้ามไม่ได้คือคะแนนที่ลงให้”หมอวรงค์”ประมาณ 46-47 % ต้องการเห็นพรรคสีฟ้าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ไม่อยากให้พรรคเดินซ้ำรอยเหมือน13 ปีที่ผ่านมา ที่”อภิสิทธิ์”เป็นหัวหน้าพรรคตลอด 3 สมัย

เพราะเชื่อว่า ไม่ใช่”แนว”ที่จะทำให้พรรคเติบโต เจริญรุ่งเรืองแล้ว

แต่เมื่อผลคะแนนออกมา ว่า “มาร์ค”ชนะ ทางฝ่าย”หมอวรงค์”ก็เคารพมติการตัดสินใจของสมาชิก

แม้ทีมหมอวรงค์เห็นสัญญาณที่จะชนะในครั้งนี้ จากการลงพื้นที่มีเสียงตอบรับ แต่พอผ่าน”พิธีกรรม”การหยั่งเสียง แล้วคะแนนออกมาเช่นนี้ก็ยอมรับความพ่ายแพ้

หลายคนมีคำถามว่า การนั่งหัวหน้าพรรคปชป.เป็นสมัยที่ 4 ของ “อภิสิทธิ์”ครั้งนี้ มีความต่างจากเดิมอย่างไร

ผลจากการเลือกกรรมการบริหารพรรค จากที่ประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ในวันรุ่งขึ้น ทีม”หัวหน้ามาร์ค”ได้นั่งกรรมการการบริหารยกแผง

แต่ไร้แม้เงาสมาชิกจากสาย”หมอวรงค์”และถาวร เสนเนียม ผู้สนับสนุนหมอวรงค์

คะแนน 46-47% ของสมาชิกพรรคที่เลือก”หมอวรงค์”ไม่ได้มีความหมายเลย แนวคิดไม่สามารถสะท้อนถึงทีมงานกรรมการบริหารพรรคเพื่อรับไปแก้ไข

ดังนั้นโอกาสที่มอบให้”อภิสิทธิ์”ในครั้งนี้นั้น

ไม่ต่างจาก 13 ปีที่แล้ว ที่ยังยืนอยู่ตีนเขาอย่างไร ครั้งนี้ก็น่าจะย่ำไม่ไกลจากเดิม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image