⦁….ทำเรื่องไม่เป็นเรื่องเก่งชะมัด “ป.ป.ช.” องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ล่าสุดพลาดอย่างแรงอีกแล้ว เกี่ยวกับ “กฎเหล็ก” ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินตามมาตรา 102 ซึ่งปรากฏว่า “เหวี่ยงแห” นอกจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมๆ แล้ว ยังกระชากลากเอา “กรรมการสภามหาวิทยาลัย” ติดกับตามไปด้วย
⦁….ทั้งๆ ที่ “กรรมการสภามหาวิทยาลัย” ไม่ใช่ตำแหน่งสลักสำคัญ มีส่วนได้ส่วนเสียกับการจัดซื้อจัดจ้างแต่ประการใด เป็นตำแหน่งที่ไม่มีเงินเดือน มีรายได้จากสถาบันแค่ “เบี้ยประชุม” เดือนละครั้ง งวดละ 3,000 บาท เข้าไปทำหน้าที่ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ตำแหน่งแห่งหนมิได้เอื้อผลประโยชน์อะไรเลย
⦁….แต่ลำดับถัดไปทุกผู้ทุกคนที่เป็น “กรรมการสภามหาวิทยาลัย” จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน หนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ รวมถึงผู้ซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภรรยาโดยมิได้ “จดทะเบียนสมรส” หมายถึง “ภรรยานอกสมรส”
⦁….ด้วยเงื่อนไขใหม่ดังกล่าว เป็นมรรคผลให้บางคนที่ขันอาสาเข้ามารับตำแหน่ง ในฐานะ “ผู้ทรงคุณวุฒิ” เนื่องจากเป็นนักธุรกิจ มีปูมความรู้ความสามารถ หรืออดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เมื่อตาม “กฎเหล็กใหม่” ต้องเข้าปิ้งนับหนึ่ง กันด้วยความเสมอภาค เรื่องอะไรอยู่ดีไม่ว่าดี ไปหาเหาใส่หัว พลาดพลั้ง แจ้งบัญชีทรัพย์สินตกๆ หล่นๆ อาจจะโดนเช็กบิล เสียผู้เสียคนนอนเป็นไม้ใกล้ฝั่งเอาได้ง่ายๆ
⦁….ก่อนวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่ง “กฎเหล็ก” บังคับใช้ “กรรมการสภามหาวิทยาลัย” จำนวนหลายพระหน่อ เตรียมไขก๊อกออกจากตำแหน่ง ไม่ใช่หลบหนีการตรวจสอบ แต่ป้องกันความยุ่งยากนานัปการที่จะตามมา เซฟตัวเองกันดีกว่าเจ็บตัวฟรี
⦁….กลับมาที่ถนนสายการเมือง นอกจากพรรค “ตระกูลเพื่อ” ที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด “เพื่อธรรม-เพื่อชาติ” ที่จัดตั้งมาเป็นลูกข่ายเพื่อรองรับ “เพื่อไทย” ถูกยุบแล้ว มีข่าวคอนเฟิร์มแล้วเช่นเดียวกันว่า “พรรคไทยรักษาชาติ” หรือ “ทษช.” ก็เป็นหนึ่งใน “นอมินี”
⦁….มีมวยหลัก รุ่นเดอะ ระดับ “บิ๊กเนม” จำนวนหลายคน “ไหล” มารวมตัวกันที่ “ทษช.” เพื่อหมายมั่นมาเก็บแต้ม “บัญชีรายชื่อ” กรณีที่ “เพื่อไทย” ได้รับเลือกจากระบบเขตเลือกตั้ง เมื่อคะแนน “พึงมี” เต็มตุ่ม
⦁….หมายความว่า เขตเลือกตั้ง “เพื่อไทย” จะคัดผู้สมัคร “เกรดเอ” ลงชิงพื้นที่ ซึ่งคาดคะเนว่าจะได้ที่นั่งถล่มทลาย แต่จะเป็นเสือติดจั่น ส.ส. “ปาร์ตี้ลิสต์” ได้น้อย ตามไฟต์บังคับรัฐธรรมนูญใหม่ บัตรใบเดียวมีความหมาย
⦁….เลยถ่ายเทผู้มีชื่อเสียง บรรดา “บิ๊กเนม” ที่ได้รับการวางตัวว่าอยู่ในข่าย กรณีที่รวบรวมเสียงชนะสามารถฟอร์มรัฐบาลได้ ต้องขึ้นผู้บริหาร ในฐานะเสนาบดี โยกมาอยู่ “ทษช.” หมายเก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน สะสมแต้ม เพื่อคะแนน “บัญชีรายชื่อ” ในพื้นที่ซึ่งคาดหมายว่า “เขตเลือกตั้ง” จะไม่ได้รับเลือก โดยเฉพาะที่หมายหลักคือ “สนามปักษ์ใต้”
⦁….ยกยอดจาก ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ “พึงได้” มาจาก “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งจะทำให้ “บัญชีรายชื่อ” ได้น้อย เพราะ “เสียงเต็มตุ่ม” จะเก็บเล็กผสมน้อยมาจาก “พรรค ทษช.” แผน “สับขาหลอก” เมื่อนำสองส่วนมาปรับจูนเข้าด้วยกัน ตัวเลข ยังใกล้เคียงกับศึกเลือกตั้งใหญ่ ปี 2554 เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แล
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่