⦁...‘ประชาธิปัตย์’ ถูกยกเป็นพรรคตัวแปรแต่ต้น ไม่แปลกแหวกพิสดารอะไรหรอก เป็นใครก็ต้อง ‘เดินหมากรุกในเกมรับ’ อย่างที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำนั่นคือตั้งตนเป็นอีกขั้ว อีกก๊ก ‘อยู่ตรงกลาง’ เป็นทางเลือกของการขับเคี่ยว ระหว่างซีก ‘เพื่อไทย’ และ ‘พลังประชารัฐ’ ฝ่าย เสธ.ปชป.คงคิดอ่านมาดีแล้วว่า ไพ่ใบนี้มีแต่ได้กับได้ เพราะการประกาศเท-ไม่เอา ‘บิ๊กตู่’ แต่ ‘ไม่ปฏิเสธน้ำแกง’ พลังประชารัฐนั้น อาจช่วย ‘เพิ่มแต้ม’ ให้กับพรรค ในภาวะที่กระแสอ่อนแรง ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น ตรงกันข้ามกับกระแสปฏิเสธลายพราง ที่เพดานบินไม่ลด หนทางเดียวที่จะตีตื้น ฟื้นกราฟ ก็คือ ‘ยืนอยู่อีกฟาก’ เผชิญหน้ากับทหารเสีย ‘ลู่ลม’ ล้อเก็บคะแนนตามกระแส เป็นวิธีง่ายที่สุด
⦁…และเมื่อ แสดงจุดยืน ‘ไม่เอาทหาร’ ไฟต์บังคับตามมา ก็แน่นอน เสนอตัวเป็นอีกขั้วชิงนายกฯ เพราะซ้าย ‘พลังประชารัฐ’ ที่บอกปัดไม่เอาบิ๊กตู่ไปแล้ว ขวาก็ ‘เพื่อไทย’ ผสมไม่ได้ ดีเอ็นเอต่างสายพันธุ์ ต้องฉีกตัวออกมาอีกสำนัก ว่ากันว่า เกมนี้ ก็เหมือนกับที่ ‘หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย’ ฝันส้มหล่น คนละสูตรค็อกเทลเดียวกันนั่นเอง ‘พลังประชารัฐ’ รวมกับ ‘เพื่อไทย’ ไม่ได้อยู่แล้ว แต่กับ ‘ประชาธิปัตย์’ ไปกันได้ ฉะนั้น ‘อภิสิทธิ์’ จึงได้ลุ้นส้มใบใหญ่ หากถึงที่สุดต้องเลือก อย่างไรเสียพลังประชารัฐก็ต้องกอดคอประชาธิปัตย์วันยังค่ำ ขัดกันอย่างเดียว 2 พรรคนี้มีแคนดิเดตนายกฯทั้งคู่ ‘บิ๊กตู่-อภิสิทธิ์’ หาก ‘ประชาธิปัตย์’ ขี่ได้เข้าป้ายอันดับสอง ก็มีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้น แต่สภากาแฟปักษ์ใต้ยันอีสาน ฟันธงตรงกัน ‘อยู่แค่ฝัน’ เป็นความจริงยาก
⦁…ไม่ง่ายเหมือนคิด เนื่องจาก ‘พลังประชารัฐ’ นั้น มีแต้มต่อ แรงหนุน ‘250 ส.ว.’ ใหญ่กว่าทุกพรรค เป็นอำนาจต่อรองสูงสุด ไม่มีทางยกเก้าอี้นายกฯ ให้ใครง่ายๆ สุดท้าย ทางเลือก ‘ประชาธิปัตย์’ ก็คือยอมร่วมหอลงโรงกับ ‘พลังประชารัฐ’ โดยมี ‘บิ๊กตู่’ เป็นนายกฯ ส่วนอนาคต ‘มาร์ค’ นอกจากขึ้นอยู่กับผลเลือกตั้ง สูงกว่าหรือต่ำ 100 แล้ว บางทีก็ไม่เสมอไปนักว่า ตัวเลข ส.ส.มีผลต่อที่อยู่ที่ยืนในฐานะหัวหน้าพรรค ‘อภิสิทธิ์’ อาจเลือกรันเวย์ลง ความเห็นไม่ตรงสมาชิก ‘ทิ้งเก้าอี้’ รักษาพรรคให้รอดก็เป็นได้ สูตรนี้นักการเมืองเขาทำนาย ดักคอไว้เยอะ
⦁…ส่วนเรื่องที่ใครต่อใคร หวั่นวิตก ยื้อยันกันอย่างนี้ สุดท้ายอาจเกิด ‘เดดล็อก’ ดูจากท่าทีขณะนี้ก็อาจเป็นไปได้เหมือนกัน แต่อย่าลืมว่า ก่อนเลือกตั้งกับหลังเลือกตั้ง หลายต่อหลายครั้งทุกอย่าง ‘พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ’ แต่จะถึงทางตันหรือไม่นั้น ต้องดูผลเลือกตั้งเป็นอันดับแรก ถ้า ‘พลังประชารัฐ’ แตะถึงเป้า 126 ที่นั่งก็จบข่าว ล็อกเก้าอี้นายกฯให้ ‘บิ๊กตู่’ ได้ การเมืองแบบไทยๆ ทุกพรรคจะไหลเกาะขบวนร่วมเป็นรัฐบาล เป็น ‘ฝ่ายค้าน’ มันอดอยากปากแห้ง แต่หากิ รวมกับพันธมิตร เครือข่ายที่แตะมือไว้ เหยียดไม่ถึง 126 คงวิ่งวุ่นหาพรรคมาผสม ตัวแปรหลักก็อย่างที่จั่วหัวไว้คือ ‘ประชาธิปัตย์’ แต่ ‘พลังประชารัฐ’ คงไม่ให้ขี่คออย่างดีก็ได้โควต้าดีๆ เรื่องิไถลถึงคนนอก เห็นทีเป็นไปได้ยาก แค่คนนอกที่เป็นคนในยังเกิด ‘กระแสยี้’ ลาม คนนอกเพียวๆ ลำบาก พรรคฝั่งที่อวดอ้างเป็น ‘ฝ่ายประชาธิปไตย’ แม้แต่ประชาธิปัตย์เองก็ตาม จะตอบคำถามประชาชนอย่างไร หากยอมเทเสียงเปิดทาง ยกเว้นไม่ใช้บัญชีนายกฯจากพรรคการเมือง
ปักหมุด
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่