ผู้เขียน | ชโลทร |
---|
รับมอบหน้ากาก – อูก ซอร์พวน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย รับมอบหน้ากาก 2,000 ชิ้น จาก ธิติธรรม-กัลยานี กมลวิศิษฎ์ ผู้บริหาร บจก.บีเจ ยีนส์ (ไทยแลนด์) และภัทร-วจนพล บุญญลักษม์
ผู้บริหาร บจก.บางบอน พลาสติค กรุ๊ป โดยมี เฮง สุวรรณฤทธิ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สถานทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้
เลี้ยงพระ – ศจ.พิเศษ สาคร สุขศรีวงศ์ ปธ.บห. ร.ร.นานาชาติคิงส์คอลเลจ กรุงเทพ จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ โดยได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารโรงเรียน และแขกผู้เกียรติร่วมงาน อาทิ บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา, ศ.กิตติคุณ คุณหญิง สุชาดา กีระนันทน์, ศิริธัช โรจนพฤกษ์ และ ธอมัส บานยาร์ด ครูใหญ่โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ ณ โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้
ส่งมอบ – บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เตรียมส่งมอบ ไลฟ์ อโศก-พระราม 9 โดยมี วิทการ จันทวิมล รอง กก.ผอ. สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์, กมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม ผช.กก.ผอ. สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม, โทโมฮิโกะ อิกูจิ Director and Executive Officer บริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนซ์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกัน ณ คอนโดมิเนียม LIFE อโศก-พระราม 9 เมื่อเร็วๆ นี้
ตลาดจริงใจ – ไกรสร กองฉลาด ผวจ.สุรินทร์ ร่วมกับ เมทินี พิศุทธิ์สินธพ รอง กก.ผจก.ใหญ่เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดตลาดจริงใจ ฟาร์มเมอร์มาร์เก็ต สาขาที่ 17 จ.สุรินทร์ โดยมี เกษมศักดิ์ แสนโภชน์, สมนึก ยอดดำเนิน, วุฒินันท์ ดอนละครขวา, กรกฤต ทองสม, โฆษิต แสวงสุข และสายลม ตลับทอง ร่วมงาน ณ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สุรินทร์ เมื่อเร็วๆ นี้
เวิร์กช็อป – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ จัดกิจกรรม Workshop ให้คำปรึกษาแก่บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบที่ 2 ในโครงการประกวดรางวัลผู้ประกอบการที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายน ณ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
มอบทุน – บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ โดย กมลนัย ชัยเฉนียน ผช.กก.ผอ.ใหญ่ พร้อมด้วย สุรพล อุทินทุ ผอ.สำนักประสานงานภายนอก ร่วมมอบทุนการศึกษาประจำปี 2563 ภาคเรียนที่ 1 ให้กับเวธกา วสุรัตต์ นักดนตรีเยาวชนในโครงการ ThaiBev ThaiTalent ณ อาคารไทยเบฟควอเตอร์ เมื่อเร็วๆ นี้
…แม้จะการเมืองไทยจะกลับคืนสู่ รัฐบาลจากการเลือกตั้ง มาปีกว่าแล้ว แต่กลิ่นอายของ การใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยังอวลอยู่ไม่หาย การชุมนุม หรือการแสดงออกในทางไม่เห็นด้วยกับ อำนาจรัฐ ยังเป็นเรื่องต้องห้ามที่ ตำรวจ ต้องจัดการควบคุมอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับ ความเคลื่อนไหวของนักการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม ยังเป็นเป้าหมายต้องติดตามใกล้ชิด และแบบเปิดเผยเพื่อให้รู้ว่า ใครเป็นใคร
…ไม่ว่า การบริหารประเทศ จะมีประสิทธิภาพจนทำให้ประชาชนคนไทยพอจะมีความหวังหรือไม่ก็ตาม แต่ในมุมมอง การบริหารอำนาจ ชัดเจนว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยังทรงประสิทธิภาพยิ่ง ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดว่า จะเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น น่าจะต้องทบทวนข้อสรุปนั้น และประเมินปัจจัยที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนอำนาจเสียใหม่ ให้เข้าใจมากขึ้น
…อาจจะเป็นเพราะต่างก็อ่านออกว่า ประชาธิปไตยไทย ไม่ได้ไม่มากกว่านี้ นักการเมืองส่วนใหญ่จึงเล่นบท เสียงดังในเรื่องที่ควรจะเป็น แต่ไม่รุกไล่แบบเอาเป็นเอาตาย ปล่อยให้หลายเรื่อง จบแบบไม่น่าเชื่อ อย่างไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนจริงจัง นับวันยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่า ต่างฝ่ายต่างเล่นเพื่อหาช่องทางที่จะเปิดโอกาสให้แสดงประโยชน์ได้บ้าง ลองฟังให้ดีๆ เถอะ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน เรื่องผลประโยชน์ประชาชนนั้น เอาแต่ ว่ากันไปตามน้ำ แต่หากมีประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ตัวเอง ดูจะ
หูผึ่ง กันถ้วนหน้า
…ที่เคลื่อนไหวกันคึกคักโครมครามอยู่ในขณะนี้ ประเด็นเรื่อง เงินรายเดือนจากผู้บริหารพรรค เป็นจุดสำคัญของการเคลื่อนไหวทั้ง ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ส.ส.ล้วนโฟกัสไปที่จุดนี้ กำลังบำรุง ด้วยข้ออ้าง เพื่อ พบปะประชาชน มีความสำคัญยิ่งกว่าภาระหน้าที่อื่นๆ
…เมื่อเป็นเช่นนี้ การบริหารอำนาจ จึงง่ายดายยิ่ง เพราะ อำนาจ ย่อมเป็นเครื่องมือสำคัญของ การจัดการผลประโยชน์ ผู้มีอำนาจในมือย่อมสะดวกกว่าที่จะทำหน้าที่ ประสานประโยชน์ การเมืองแบบ ทำเพื่อประโยชน์ประชาชน กลายเป็นความเชื่อที่ คนที่รู้ไส้รู้พุง แอบยิ้ม
…นักการเมืองที่เล่นเป็น ดูจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการจัดการ โครงสร้างอำนาจ แต่โชว์ผลงานในการลงพื้นที่พบปะประชาชน ตามบทบาทที่ ตัวเองได้รับ รัฐมนตรี ก็เดินหน้าด้วยโครงการแจกจ่ายความช่วยเหลือ ส.ส. รับเรื่องร้องเรียน แจกข้าวแจกของไปตามเรื่อง ส่วนปัญหาใหญ่เรื่อง สิทธิเสรีภาพ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ การเมืองภาคประชาชน ระดับ นักเรียน นักศึกษา เล่นกันไป ใครเล่นไม่เป็นก็กลายเป็น
ผู้ต้องหาคดีอาญาสารพัดที่จะงัดกฎหมายขึ้นมาใช้ โดยไม่มีใครช่วยใครได้
…ด้วยสภาพเช่นนี้เอง ปรับ ครม.แม้จะเกิดขึ้นแน่นอน แต่นอกจากแย่งเก้าอี้กันเองตามโควต้าของแต่ละพรรคแล้ว แทบไม่มีเรื่องอื่นให้เป็นความหวังว่า ประเทศจะพัฒนาไปในทางที่เอื้อให้ชีวิตประชาชนอยู่ดี
มีสุขมากขึ้นได้
ชโลทร