เปิดงาน – ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ ที่ปรึกษา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) ทำพิธีเปิดงานสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 7 ภายใต้แนวคิด บ้านแห่งความรัก โดยมี ภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ ร่วมงาน ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย เมื่อเร็วๆ นี้
ดุษฎีบัณฑิต – ฉวีวรรณ เกียรติโชคชัยกุล อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ อดีตผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) สำเร็จดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) โดยมีครอบครัว และเพื่อนๆ ร่วมแสดงความยินดี ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อย เมื่อเร็วๆ นี้
คว้าหุ้นยั่งยืน – ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณการคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ หุ้นยั่งยืน ประจำปี 2563 (Thailand Sustainability Investment : THSI) จาก ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในงาน SET Sustainability Awards 2020 ในฐานะเป็นองค์กรที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มีการใส่ใจด้าน
สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้
กินข้ามปี – กรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้าน ซิซซ์เล่อร์ และนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล ร่วมเปิดตัว Festive Season ฤดูกินฟินข้ามปี โดยบรรดาเมนูใหม่ของซิซซ์เล่อร์จะเปิดให้ทุกคนมาฉลองกันได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563-24 มกราคม 2564 ณ ร้านซิซซ์เล่อร์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้
ลงนาม – นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) จับมือ 3 หน่วยงานคือ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.), กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (วพ.), สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มอกช.) เซ็น MOU ลงนามข้อตกลงความร่วมมือการรับรองระบบงานในประเทศไทยแบบเครือข่าย Single platform นำระบบการรับรองแบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้กับห้องปฏิบัติการหน่วยงาน พัฒนาบริหารจัดการและพัฒนาผู้ตรวจประเมินให้ได้มาตรฐานเดียวกัน ณ โรงแรม
เดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ เมื่อเร็วๆ นี้
รับรางวัล – เครือเบทาโกร นำโดย ถนอมวงศ์ แต้ไพสิฐพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร สายงานบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และงานจัดซื้อ รับมอบรางวัล Thailand Corporate Excellence Awards 2020 สาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ในงานพิธีประกาศผลและมอบรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2020 จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ โรงแรมแชงกรี-ลา โฮเทล กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้
…ในฐานะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คุยฟุ้งยามนี้ เป็นความสนใจของประชาชนต่อโครงการ คนละครึ่ง ที่รอบแรกได้รับเสียงชมล้นหลามว่าสร้าง กำลังซื้อ ได้จริง ด้วย ร้านค้าเล็กๆ เข้าร่วมโครงการได้ทั่วถึง ด้วยอาศัยกลไกราชการระดับตำบลเข้ามาช่วยลงทะเบียน เมื่อเปิดรอบ 2 จ่ายเพิ่มเป็นคนละ 3,500 บาท มีประชาชนสมัครเข้าร่วมเต็มโควต้าภายใน 2 ชั่วโมง เปิด 6 โมงเช้า 8 โมงปิด เรียกความนิยมได้ระดับนี้ หน้าบาน แก้มปริ จึงเป็นอาการของ นายกฯ
…เพียงแต่ว่า เมื่อเป็น ความต้องการของคนส่วนใหญ่ แต่ คนที่ได้เป็นส่วนน้อย
หลังวืดเพราะลงทะเบียนไม่ทัน เสียงโวยวายว่า ฝนตกไม่ทั่วฟ้า จึงดังแรงกว่า คนได้รับสิทธิ เสียงเรียกร้อง รัฐสวัสดิการ ที่เน้น ความเสมอภาค เท่าเทียม ได้เท่ากันทั่วหน้า ไม่ใช่แค่เรื่อง เสี่ยงโชค เป็นความโชคดีที่ได้รับ แต่มีสภาพไม่ต่างกับงาน ทิ้งกระจาดของศาลเจ้า ที่ต้องถ่อกันมารอแต่เช้ามืด เพื่อแย่งชิงของกัน
…เพราะทำโครงการเหมือน ให้ทาน เหมือนงาน เผาศพ หรือ งานบวช ที่ โยนเศษเหรียญ ให้คนแย่งกัน ซึ่งทำให้เกิดความคิดว่า เพื่อสร้างสำนึกแบบ ระบบอุปถัมภ์ ให้ คนได้รับนึกถึงบุญคุณของคนให้ สร้างความคิด เหนือกว่าต่ำกว่า ให้เกิดขึ้น แทนที่จะเป็นเรื่อง ต่างคนต่างทำหน้าที่ คือ รัฐบาล มีหน้าที่เอา
เงินกู้ มากระจายให้ ประชาชน เอาไปใช้จ่าย ต่างคนต่างทำหน้าที่ สร้างกำลังซื้อ ให้กลไกเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ ก่อเกิดการสร้างงาน จ้างงาน ค้าขายหล่อเลี้ยงสังคม ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะเป็น ผู้มีบุญคุณกับใคร
…มาแรง แซงทางโค้ง ปิด พ.ศ.2563 น่าเป็นคำของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ ไทยจะเป็นชาติที่ 5 ของเอเชีย ที่จะสามารถผลิตยานอวกาศและส่งไปโคจรรอบดวงจันทร์ได้ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่เกิน 7 ปี เนื่องจากสร้างความตื่นตะลึงที่สุดเท่าที่เคยมีคำของ รัฐมนตรีไทย มา ถ้าไม่ถูกกลบด้วยคำที่ว่า สร้างถนนพระราม 2 ให้เสร็จก่อนที่จะเพ้อถึงยานอวกาศ เสียก่อน ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ น่าจะเป็นเจ้าของ วาทะแห่งปี ด้วยประกาศ โคจรรอบดวงจันทร์ใน 7 ปี
…ความคาดหวังของ เยาวชนคนรุ่นใหม่ ต่อภารกิจของ ผู้บริหารอุดมศึกษา คือระบบการศึกษาที่เอื้อต่อการสร้างความคิดสร้างสรรค์ ต่อการบริหาร วิทยาศาสตร์ คือสร้างความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติของแรงพลัง และวัตถุธาตุต่างๆ เพื่อนำมา สร้างสิ่งประดิษฐ์ให้มนุษย์มีชีวิตสะดวกสบายขึ้น ต่อ การวิจัย คือค้นหาองค์ความรู้ที่เหมาะกับการมาใช้พัฒนาความคิด และต่อนวัตกรรมยิ่งชัดว่า เพื่อสร้างสิ่ง
ประดิษฐ์ใหม่ๆ ขึ้นมาใช้ประโยชน์เหมาะสมกับการพัฒนา สำหรับประเทศที่ยังปล่อยให้ประชาชน ขูดถูต้นไม้ ทาแป้งคางคกขอหวย จะมีประโยชน์อะไรกับการสร้าง ยานอวกาศ ไปโคจรรอบดวงจันทร์
…ท่ามกลางความขัดแย้งของคนในชาติ นายกรัฐมนตรี โอนภารกิจตั้งกรรมการสมานฉันท์ให้ รัฐสภา จัดการ น่าเห็นใจ ชวน หลีกภัย ที่ดูเอาจริงเอาจังกับภารกิจนี้ แค่ ฝ่ายค้าน และ ประชาชน ที่ไม่ส่งคนเข้าร่วม เพราะมองว่าเป็นแค่
การซื้อเวลาเพื่อหาทางสยบม็อบ เท่านั้น กระทั่ง แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล อย่าง พลังประชารัฐ ยังประกาศส่งคนที่ชัดเจนว่าแน่วแน่ต่อภารกิจ ตอบโต้ฝ่ายตรงกันข้าม ลงมา แทนที่จะใช้งาน คนที่ฟังคนอื่นเป็น นั่นทำให้ถูกตีความว่าน่าจะถึงขั้น เจตนาป่วนการสมานฉันท์ เสียมากกว่า
…เลือกตั้ง อบจ. 20 ธันวาคมที่จะถึงนี้ สาระสำคัญอยู่ที่ จะเกิดความเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพหรือไม่ การสู้กันระหว่าง ผู้มีบารมีในท้องถิ่น ที่เป็นกลไกของ ระบบอุปถัมภ์ กับ คนรุ่นใหม ที่นำเสนอเชิง คุณภาพการบริหาร ผลออกมาจะรักษาแบบเก่าไว้ หรือกล้าหาญพอจะสร้างคุณภาพใหม่ การตัดสินใจของประชาชนจะบอกแนวโน้มความเป็นไปของประเทศ
ชโลทร