ผู้เขียน | ขรัวตาขำ |
---|
สถานีนี่นี้…ปัจจุบัน สถานีหน้านั้น…มรณะ
คนเรา ถึงคราวจวนอยู่จวนไป เขาว่ามักมีสิ่งบอกเหตุ
ถามว่า เหตุอะไร?
เหตุแห่งความหายนะ เหตุแห่งความฉิบหาย หรืออะไรทำนองนั้น
เหตุอื่นไม่ค่อยปรากฏ
ผู้ปกครองหลายต่อหลายคน เป็นโรคเก็บกดสมองส่วนเดียวมาตลอด มีอะไรมากระทบกระทั่ง มากบ้างน้อยบ้าง พอใจแกว่ง แค่ฟังไม่ได้ศัพท์ก็จับมากระเดียด หาเรื่องเชยๆ เฉิ่มๆ ไปทั่ว
ตามประสาจวนอยู่จวนไป
คำตอบสถานีหน้านั้น คือ ได้ไปแน่
ร่ำลือกันตลอดทั่วตลาดโควิดว่า คนที่ต้องไปก่อนไป ขณะนี้มีอยู่ 2 คน
ประมุขฝ่ายบริหารนั้น 1 ละ
ประมุขฝ่าย กทม. อีก 1
ความจริง 2 ท่านนี้ ตายเกินตายก่อนล่วงหน้ามานานแล้ว
ท่านมีความอยากในงาน
แล้วก็อยากในเงิน
เหตุและปัจจัย 2 ข้อนี้ สำคัญมากในการบริหารชาติบ้านเมืองให้คนส่วนใหญ่อยู่รอด
แต่จะเป็นสับปะรังเคทันที ถ้าอยู่ในซีกตรงกันข้าม
และทำความวิบัติหายนะอยู่ตลอดในหมู่ผู้ปฏิบัติผิดช่องผิดทาง
ทั้งหลายทั้งปวงนั้น ล้วนมีเวลาตั้งอยู่ขณะหนึ่ง
ถึงเวลา เสื่อม ดับ ก็จะกระโดดประชิด และลากไปทึ้งในยามชรา
ไม่ต้องไปถาม 2 ประมุขสมมุตินั้น ว่าถึงเวลาหรือยัง?
เพราะการตอบไม่ตรงคำถาม ไม่ใช่วิสัยวีรบุรุษ
บุรุษผู้มีสมองซีกเดียวอีกจำนวนหนึ่ง สะดุดกับคำพูดฉุกเฉินสุดท้ายไม่ได้
จะเป็นด้วยเหตุ คุ้นจำมาตั้งแต่เกิด ใจแกว่งมาตั้งแต่แตกพาน จับมากระเดียดตั้งแต่เริ่มฝันเปียก
ได้ยินเหมือนได้ยินคำถามเมื่อใด
อาการเก็บกดระเบิดปะทุทันที
ทั้งที่มีคำขอบคุณห่อหุ้มคำสุภาพ
แต่ซีกเดียวคิดไม่ทัน
คิดแต่จะโต้ตอบเพียงวาทะ
ยิ่งสติปัญญา
ยิ่งไม่ต้องหา
เมื่อไม่หาก็ไม่เจอะ
ไม่เจอะก็อย่าไปหา
เหลือเพียงนามรูปที่มีอยู่ ซึ่งไม่สมประกอบ
ไม่ครบคน ไม่เป็นไปด้วยหลักและความรู้สากล
นามรูป สมองส่วนเดียวเช่นนี้ จำเป็นสำหรับประเทศนี้ พอหรือยัง?
ยังไม่พอ
เหลือเวลาอีกเท่าไร?
ขรัวตาขำ