‘อธิบดี สถ.’ ขอบคุณ ‘ขนมจีนน้ำปลา’ ชี้ เป็นบทเรียน พร้อมสั่งให้มีนักโภชนาการใน อปท.

‘อธิบดี สถ.’ ขอบคุณ ‘ขนมจีนน้ำปลา’ คือบทเรียน ทำสังคมไทยตื่นตัว ชี้ เด็กสำคัญ พร้อมสั่งให้มีนักโภชนาการใน อปท.

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 มิถุนายน ที่โรงแรมอเล็กซานเดอร์ ถนนรามคำแหง มีการเสวนาวิชาการ เรื่อง “การบริหารจัดการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ” โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กล่าวว่า ต้องขอบคุณขนมจีนน้ำปลา เพราะหากไม่มีขนมจีนน้ำปลา วันนี้เราคงไม่ได้มานั่งคุยกันจริงจัง ทั้งนี้ หน้าที่ของเราคือจะทำอย่างไรให้อาหารกลางวันของเด็กมีคุณภาพภายใต้งบประมาณนี้ ซึ่งในปัจจุบันนี้เราเองใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้มากกว่า 22,000 ล้านบาท ถือว่าน้อยก็ไม่น้อย จะเยอะก็ไม่เยอะ เรียกว่าพอดีต่อความจำเป็น เราอยากให้ทุกที่ดี ซึ่งกรมกลัวว่าจะมีกรณีเหตุขนมจีนน้ำปลากระจายไปทั่ว เพราะเป็นเรื่องเศร้า เพราะลูกหลานเราวัดผลการศึกษาเป็นอันดับ 8 ของอาเซียน ชนะเพียงพม่ากับลาว ซึ่งวัย 1-5 ขวบ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ อยากให้ทุกโรงเรียนของ สถ. และกระทรวงศึกษาธิการเข้ามาเป็นสมาชิกกับเน็กเท็ก หรือใช้ระบบไทยสคูลลันช์ (Thai school lunch) เพื่อวางแผนเรื่องอาหารกลางวัน จะได้ขจัดเรื่องดุลพินิจของคน โดยเป็นเมนูอาหาร 4.0 ซึ่งสามารถเข้าไปเลือก เสนอ และสร้างสรรค์รายการอาหารในช่องทางนี้ได้

นายสุทธิพงษ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ต้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หานักโภชนาการมาประจำ อปท.อย่างน้อยอำเภอละ 1 คน และกรมได้สั่งคณะทำงานให้ไปสุ่มตรวจอาหารในแต่ละลงเรียน อีกประเด็นที่เป็นเรื่องใหญ่มากคือเราให้โรงเรียนทำเมนูอาหารกลางวันติดประกาศด้วย เพื่อให้ผู้ปกครองมีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเมนูอาหาร อย่างไรก็ตาม ในแง่ของงบประมาณที่มีการบ่นว่าล่าช้านั้น ขอยืนยันว่าในส่วนของรัฐบาลไม่มีคำว่าล่าช้า ทั้งเรื่องนม และเรื่องอาหารกลางวัน เพราะเรารู้ว่าเด็กต้องกินข้าว โดยจะต้องส่งงบไปยังโรงเรียนแต่ละโรงเรียนภายใน 7 วันที่งบลงไป แต่หากมีปัญหาเรื่องระบบการเบิกจ่าย หรือการเสนอโครงการมาขอบงบฯ เช่น การที่ต้องรอให้จำนวนเด็กให้นิ่งก่อน ฯลฯ ก็ขอให้ท่านไปซักซ้อมกันว่าจะดำเนินการอย่างอย่างไร

“วันนี้สังคมจับจ้องอยู่ เพราะเด็กเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญที่สุดในโลก เขาต้องดูแลพวกเรา และประเทศชาติต่อ ขอวิงวอนพวกเราว่า อะไรที่ยังคิดไม่ดี หากเป็นเชิงระบบก็บอก และอะไรที่ดีแล้วอยากให้ทำต่อก็บอก เราต้องการให้กรมเราเปลี่ยนแปลงทุกวันให้ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ ทางกระทรวงมหาดไทย และกรมของเราเห็นว่า การที่เด็กถูกผู้ใหญ่โกงอาหารเป็นสิ่งที่รอช้าไม่ได้” นายสุทธิพงษ์กล่าว

Advertisement

ด้านนายสง่า ดามาพงษ์ กรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาหาร และโภชนาการอาหาร กล่าวว่า ขนมจีนคลุกน้ำปลาทำให้สังคมไทยรู้ว่าโภชนาการอาหารมีความสำคัญมาก ทำให้สังคมไทยตื่นตัว หากให้เด็กอิ่มอาหารอย่างเดียว เด็กจะแคระแกรน ลาเรียนบ่อย สมองพัฒนาช้า และอนาคตประเทศจะไม่มีการพัฒนา เพราะเด็กแข็งแรง ดังนั้น ขนมจีนน้ำปลาจึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของชาติในอนาคต ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องตอบสนองนโยบายของลุงตู่ ต้องมีอาหารกลางวันยุค 4.0 เราต้องมีแม่ครัวที่รู้เรื่องโภชนาการ มีนักโภชนาการในแต่ละอำเภอ และโรงเรียนจะต้องรับครูที่จบด้านคหกรรมอาหาร หรือครูอาหารโรงเรียนละ 1 คน นอกจากนี้ เราต้องปรับปรุงกฎหมายต่างๆ เพื่อกำกับในเรื่องของการจัดหาอาหารกลางวัน วันนี้ เราต้องลงทุน เพราะไม่มีการลงทุนใดสำคัญมากไปกว่าการลงทุนสร้างคน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image