จุดพลุ ‘พลังประชารัฐ’ เปิดตัว ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ ตั้งทีม ‘สามมิตร’ ค่ายเก่า ‘วังน้ำยม’

หลังจากที่นายอนุชา นาคาศัย อดีตส.ส.ชัยนาท มือขาว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ประกาศตอหน้าสื่อมวลชน ที่ติดตามทำข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดพิจิตร และ จังหวัดนครสวรรค ว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ จะมีข่าวใหญ่!!!

ผ่านไปเพียงอาทิตย์เดียว ก็มีข่าวใหญ่จริง!!!

เป็นข่าวใหญ่ ซ้อนข่าวใหญ่ในหลายมติ…

มติแรก คือ การปรากฎเปิดตัวของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่หางหายจากแวดวงการเมืองไปนานแสนนาน ตั้งแต่มีการรัฐประหาร 19 กันยาฯ 49 และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรรคไทยรักไทย ในปี 2550

Advertisement

ต่อมา ถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ดำเนินการเอาผิด เมื่อครั้ง และนายสุริยะ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในคดีการจัดซื้อและติดตั้งเครื่องตรวจจับระเบิด (CTX 9000) และการก่อสร้างระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

แต่สุดท้าย คดีสิ้นสุดลงเมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มติไม่ส่งฟ้อง เนื่องจากหลักกฐานไม่เพียงพอ ในปี 2555

จากนี้ นายสุริยะ เก็บตัวเงียบเรื่อยมา กระทั่งมีข่าวว่า เตรียมตัวจัดทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในปี 2562 ในนาม ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ที่ผ่านการประสานงานจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เกลอเก่าที่ร่วมก่อตั้งกลุ่มวังน้ำยมมาด้วยกัน

Advertisement

มติที่ 2 เป็นการคอนเฟิร์มว่า นายสุริยะ ร่วมมือกับนายสมศักดิ์ และนายสมคิด ตั้งพรรคจริง ไม่ใช่เพียงกระแสข่าวที่ลอยไปลอยมา ถึงขนาดมีการตั้งชื่อกลุ่มใหม่ในชื่อ สามมิตร’ ที่มาจาก 3 ส. รวมตัวกัน

มิติที่ 3 เป็นการบุกฉุก นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข คนของพรรคเพื่อไทย ถึงถิ่นเมืองเลย แบบไม่แคร์สื่อ ไม่ต้องซุ่มเงียบๆแอบจีบลับๆอีกต่อไป หากเปรียบมวย ถือว่าเป็น ‘มวยรุ่นใหญ่’ เดินบุก ปล่อยหมัดตรง ไม่อ้อมค้อม ชนิดที่ว่า พรรคเพื่อไทยตั้งตัวไม่ทัน

ทั้งที่ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยออกมาระบุเองว่า ไม่มีส.ส.ย้ายพรรค ถ้ามีก็สอบตก กระทั้งมีการปล่อยข่าวอีกว่า พรรคพลังประชารัฐ ทุ่มซื้ออดีตส.ส.เกรดเอ ในราคาสูงถึง 30-50 ล้านบาท

แต่เมื่อกางบัญชีรายชื่อผู้ที่มีความประสงค์จะมาร่วมพรรคพลังประชารัฐพบว่า ส่วนใหญา ไม่ใช่ ส.ส. เกรดเอ อย่างที่ว่า แต่กลับเป็นส.ส. เกรดบี เกรดซี ที่เคยสอบได้เมื่อครั้งอยู่พรรคไทยรักไทย และบางคนก็สอบตกเมื่อย้ายพรรค แต่เกือบจะทั้งหมด เคยเป็นสมาชิกกลุ่มวังน้ำยม ร่วมถึงตัว นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เองก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีการยืนยันชัดเจนว่า ไม่มีการดูดด้วยเงินใดๆทั้งสิ้น จะมีก็แต่เชิญชวนให้พลพรรคเก่าที่เคยอยู่วังน้ำยม กลับมารวมตัวเพื่อร่วมงานกันอีกครั้งเท่านั้น….

มาถึงนาทีนี้ถือว่า เป็นการเข้าสู้สภาวะการเมืองที่เริ่มมีสีสันขึ้นมาทันตา…เพียงแต่ว่า…

คสช. ควรปลดล็อกให้ผู้เล่นในลงสนามแบบเท่าเทียมกัน ไม่ใช้ห้ามฝ่ายหนึ่ง แต่หลี่ตาให้ฝ่ายตัวเองเดินเกมรุกอยู่ฝ่ายเดียว…!!!

ทีมงานการเมือง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image