เมื่อเวลา 8.30 น. ที่ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ถนนเเจ้งวัฒนะ ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อม.51/2560 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติต้นเดือน ก.พ. 2560 ชี้มูลความผิดทางอาญานายสุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4)
โดยคดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อกลางเดือน มีนาคม2560 ซึ่งนายสุรพงษ์ได้ยื่นหลักทรัพย์ 3 ล้านบาทขอประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
ทั้งนี้เวลา 8.45 น. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล วัย 65 ปี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทนายความ เดินทางถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเข้าฟังคำพิพากษาที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรพงษ์ ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ กรณีออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับให้คดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4) โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไต่สวนพยานโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นในช่วง 1 ปี
โดย นายสุรพงษ์ กล่าวก่อนฟังคำพิพากษายืนยันว่า ยังมีกำลังใจดี แม้จะป่วย แต่พร้อมที่จะสู้คดี เบื้องต้นได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้จำนวนหนึ่งสำหรับการประกันตัว โดยยืนยันว่าการทำหน้าที่รัฐมนตรีต่างประเทศที่ผ่านมา ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ระบุหากศาลมีคำพิพากษาว่านายสุรพงษ์ มีความผิดก็พร้อมยื่นอุทธรณ์ โดยเห็นว่าการลงมติถอดถอนนายสุรพงษ์ออกจากตำแหน่งของที่ประชุม สนช. ไม่น่าจะมีผลต่อการพิพากษาคดีของศาลฎีกาฯในวันนี้ พร้อมเปิดเผยว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงนายสุรพงษ์ด้วย
ต่อมาเวลา 10.45น.เจ้าหน้าที่ศาลได้เเจ้งให้สื่อมวลชนเเละผู้ที่มาร่วมรับฟังคำพิพากษาคดีนายสุรพงษ์ออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดย มิชอบ ว่าขณะนี้องค์คณะผู้พิพากษากำลังประชุมลงมติเพื่อทำคำพิพากษากลาง จึงนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในเวลา 12.30น.
