‘บิ๊กตู่’ ลั่นขอเลือก ส.ว.เอง ไม่เอาสภาผัว-เมีย ยกอังกฤษยังมาจากแต่งตั้ง

“บิ๊กตู่” ลั่นขอเลือกส.ว.เอง ชี้อังกฤษก็ใช้ระบบคัดสรร หวั่นเลือกตั้งสภาสูงเข้ามา เจอสภาผัว-เมียแบบเดิม ย้ำคนไทย-นักการเมืองต้องปรับตัว ระบุยังไม่ตัดสินใจ-เป็น ส.ส.ไม่ได้ ขอกำลังใจคนไทยบอกตัดสินใจให้ ปท.ไปแล้วต้องทำให้สำเร็จ

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างพบปะคนไทยในฝรั่งเศส เพื่อเล่าสถานการณ์ในประเทศไทย และแนวความคิดของนายกรัฐมนตรีในการทำงาน ระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายน ตอนหนึ่งว่า เวลาเจอคนไทยในต่างแดนก็รู้สึกมีความสุข เพราะตนอยู่ไทยมาตลอดเกือบทั้งชีวิต ในการเดินทางเยือนต่างประเทศก็มาเท่าที่จำเป็นเพราะไม่มีเวลา และในการเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศสในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในการเยือนยุโรปในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการเยือนครั้งสำคัญเพื่อ เพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันกับประเทศในสหภาพยุโรป ซึ่งตนได้นำหัวใจของคนไทยในประเทศมาด้วย ซึ่งคนไทยในไทยก็มีความเป็นห่วงคนไทยในต่างประเทศเช่นกัน แม้บางคนจะเกิดที่ต่างประเทศแต่ก็ถือเป็นคนไทยสายเลือดไทยด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การมาครั้งนี้เพื่อให้ต่างประเทศเข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองของไทย ซึ่งแม้จะมีการคบค้าสมาคมมาอย่างยาวนานแต่ก็ค่อนข้างจะเหินห่างเนื่องด้วยระยะทาง และความสนใจตามช่วงเวลา เช่น การออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) สงครามการค้าที่หลายประเทศต้องร่วมมือกัน โดยการพบประกับนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ตนได้เล่าถึงพัฒนาการทางการเมือง และโครงการต่างๆ ขณะเดียวกันก็รับทราบนโยบายทางการเมืองของสหราชอาณาจักรเช่นกัน และการพบปะประธานสภาขุนนาง หรือที่ในไทยเรียกว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งมีการแต่งตั้งกันมาอย่างยาวนาน สืบทอดกันมาตามระบบขุนนาง ไม่เหมือนของเราที่จะเลือกตั้งกันท่าเดียวทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)และ ส.ว. ซึ่งการมีสองสภามีทั้งข้อดีและข้อเสีย

“ข้อดีของสองสภาดีอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่ามันจะมาทางไหน โดยการเลือกตั้งทางเดียวจะทำให้เป็นแบบเดิมหรือไม่ เราก็ไม่รู้ อย่างที่มีคนเคยบอกสามีอยู่สภานี้ภรรยาอยู่สภาโน้น บางทีก็ไม่เกิดการตรวจสอบและถ่วงดุล ซึ่งผมก็เล่าให้ฟังว่าของเรากำลังปฏิรูปการเมืองเหมือนกัน เช่น ส.ว.ของเราจำเป็นจะต้องมีการแต่งตั้งซึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในอดีตก็เคยแต่งตั้งมา 250 คน ตอนหลังมาเป็นเลือกตั้งทำให้สองสภามีที่มาคล้ายๆกัน ทำให้เกิดปัญหาในการทำงานคล้อยตามกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง วันนี้ต้องขอเวลาช่วง 5 ปีแรก จะมีการคัดสรร ส.ว. 200 คน อีก 50 คน ไปคัดสรรมาจากประชาชน 200 คน ผมขอเลือกเองแล้วกัน ไม่ใช่ผมไปเลือกเองผมไม่ได้รู้จักคนทั้ง 200 คน ผมก็ต้องตั้งคณะคำงานของผมไปเลือกคนแต่ละกลุ่มแต่ละฝ่าย มีทุกกลุ่มเพื่อให้เกิดการสอบทานกับ ส.ส. ผมก็เล่าให้เขาฟังซึ่งเขาก็บอกว่าดีเหมือนเขาก็ใช้ระบบนี้เหมือนกัน ระบอบเขาเป็นผู้นำการปกครองประชาธิปไตยเป็นหลักของโลกใบนี้ เขามีรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เราล่อไป 19-20 ฉบับ ยังไม่ได้เลือกตั้งก็จะแก้เป็นฉบับที่ 21 แล้ว ทุกคนต้องเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญเป็นแค่กรอบในการบริหารราชการแผ่นดินเท่านั้น เป็นกรอบที่พูดความกว้างแต่สิ่งสำคัญคือกฎหมายที่พ่วงตามมาอีกหลายร้อยหลายพันกฏหมาย 200-300 มาตรา แต่มีกฎหมายพ่วงที่ทำให้เกิดการปฎิบัติ ให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้อีกหลายพันฉบับ บางทีก็อ้างสิทธิเสรีภาพอยู่ตัวเดียว แล้วไปกีดกันคนอื่น ละเมิดสิทธิมนุษยธรรมคนอื่นให้เขาเดือดร้อน ซึ่งเขาไม่สนใจตรงนี้ นี่แหละคือประเทศไทย น่ารักไหมล่ะ คือ ประเทศไทย ไทยแท้ ไม่ชอบระเบียบ กฎหมาย แต่เวลามาอยู่นี่ก็เชื่อเขาจังถ้าไม่เชื่อก็โดนใช่หรือไม่ นั่นคือความแตกต่างซึ่งผมไม่ได้ว่าใครดีหรือไม่ดี แต่เราจำเป็นต้องปรับตัวเองเพื่อทำให้สังคมสงบเรียบร้อย และสิ่งที่ทำให้สังคมสงบเรียบร้อย เกิดความเท่าเทียม ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ มีสิทธิ์เท่ากันในการประกอบอาชีพและไปไหนก็แล้วแต่ มีสิ่งเดียว คือกฎหมาย เพราะทุกคนต้องเคารพกฎหมายเดียวกัน แต่กฎหมายก็มีปัญหา นอกจากตัวกฎหมายเองผู้บังคับใช้กฏหมายก็มีปัญหา หรือผู้ถูกบังคับใช้ก็มีปัญหาอีก ฉะนั้นผมไม่อยากให้ต่อไปบ้านเมืองเกิดปัญหานี้ขึ้นมาอีกคือกฎหมายเป็นตัวสร้างความขัดแย้ง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราได้มีการทำหลายอย่างขึ้นมา รัฐบาลนี้ปฏิรูปกฎหมายมาใหม่ประมาณ 400 ฉบับ ซึ่งการออกใหม่ไม่ได้ออกมาเพื่อบังคับคน แต่เป็นการนำของเก่ามาแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายการค้าการลงทุน สิทธิประโยชน์บีโอไอ ที่กติกาเปลี่ยนมานานแล้วแต่บ้านเราไม่ค่อยให้ความสนใจ สนใจแต่ในเรื่องที่ขัดแย้งมาโดยตลอด และ 4 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2557 คสช.ทำอะไรไปแล้วบ้าง สิ่งที่พวกเราน่าจะเห็นว่าความสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพเกิดขึ้นเกิดขึ้น เมืองไม่มีการประท้วง ไม่มีการปิดถนนทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน ทำให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินไปได้ทำงานอื่นได้ สภาสามารถออกกฏหมายได้ การออกกฏระเบียบบ้านเมืองให้เกิดความโปร่งใส ตนไม่อาจจะบอกได้ว่าทุกอย่างดี 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะมันเกิดขึ้นนานมาก นานมากในการที่บางอย่างถูกปล่อยปะละเลย บางอย่างเกิดจากการบกพร่องของเจ้าหน้าที่ บางอย่างประชาชนก็ไม่เห็นด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาของทุกประเทศ ตนไม่ได้ว่าประเทศเราแย่กว่าคนอื่น แต่นิสัยของคนมีความแตกต่างประเทศกัน ซึ่งคนไทยก็น่ารักไม่อย่างนั้นคนฝรั่งเศสก็คงไม่รับเราเข้ามาอยู่ด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนอยากให้ความหวังกับทุกคนว่าเราต้องดีขึ้น เหมือนกับการที่คนไทยมาฝรั่งเศสที่แรกๆอาจจะไม่เหมือนกับที่คิดไว้ แต่ก็ต้องปรับตัวจนเริ่มชินให้อยู่ได้ในสังคม คนไทยในประเทศไทยก็ต้องปรับ เช่นเดียวกับนักการเมือง

“วันนี้ผมยังไม่ได้บอกว่าผมจะเป็นอะไรจะเป็น ส.ส.หรือเปล่า ผมเป็นไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าผมเป็น ส.ส.ลงเลือกตั้ง ผมต้องลาออกตั้งแต่รัฐธรรมนูญออกมาแล้วโน้น นี่ผมก็ยังเป็นนายกฯอยู่เหมือนเดิม แล้วเขาจะเลือกผมยังไงยังไม่รู้เลย มันเป็นเรื่องของกลไกทางกฎหมาย ตอนนี้ผมยังไม่ตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น ขอทำตรงนี้ก่อน ยังมีเวลาตั้งเยอะแยะ หลายคนบอกอย่าไปเลือกตั้งเลย มันลำบาก เราคิดได้แต่ในเวทีต่างประเทศมันลำบาก เพราะฉะนั้นก็ขอร้องให้มันสงบเถอะนะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

Advertisement

ในช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรีได้ ฝากคนไทยในฝรั่งเศสให้สร้างความเข้าใจกับคนต่างประเทศว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร และได้สอบถามคนไทยที่มารับฟังด้วยว่า รู้สึกง่วงหรือไม่ เพราะตนที่พูดเองก็ยังรู้สึกง่วง พอพูดมาตลอด 3-4 ปี ลองนึกแล้วกันว่า 4 ปี ปีละ 52 สัปดาห์ รวมแล้วพูดในรายการฯมา 200 กว่าครั้งแล้ว นอกนั้นเป็นการพูดรายวัน รายสัปดาห์ บางวันก็ไม่ได้พูดแต่สื่อเขียนเอง สรุปอะไรก็ตนอะไรก็ตน จนไปไหนไม่ได้

“วันนั้นเคยคิดจะปลอมตัว ติดหนวดแล้วก็ใช้ไม่ได้ยังไงคนก็รู้ กิริยาท่าทางของผมไม่เหมือนคนอื่นเขา แต่ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เพราะผมถือว่าผมตัดสินใจไปแล้ว ตัดสินใจให้ใคร ตัดสินใจให้ประเทศไทย ให้คนไทยว่า ผมต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ ทุกอย่างจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จอยู่ที่แรงใจคนไทยในประเทศ และคนไทยในต่างประเทศ ที่ผมคิดว่าทุกคนไม่เคยลืมบุญคุณของประเทศไทย ยังไงก็ตามไม่ว่าท่านจะอยู่ไหนก็ตาม ท่านยังมีแผ่นดินแม่ที่เป็นเสรีไม่เคยเป็นของใครมาก่อน นั้นแหละ คือสิ่งที่หลายคนลืมตรงนี้ไปแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า หากมีปัญหาหรืออุปสรรค ก็ให้ติดต่อผ่านสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ ที่เป็นตัวแทนรัฐบาล ในลักษณะเดียวกับศูนย์ดำรงธรรมที่มีอยู่ในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการพบปะกับชาวไทยในฝรั่งเศสครั้งนี้ เป็นไปอย่างเป็นกันเอง โดยนายกรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก อย่างไรก็ตาม คนไทยที่มาร่วมรับฟังได้ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ด้วยการเขียนข้อความต่างๆลงในกระดาษแผ่นใหญ่พร้อมชูให้เห็น อาทิ คนไทยไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็รักลุงตู่, อยู่ต่อเลยได้ไหมท่านประยุทธ์, ชาวไทยในฝรั่งเศสสนับสนุนท่านประยุทธ์เป็นนายกฯของคนไทย, หยุดเชียร์บอลโลก มาเชียร์ลุงตู่, รักท่านนายกฯประยุทธ์ เลือกตั้งครั้งต่อไปยังไงก็เลือกลุงตู่, ฮักเมืองไทยหลายเด้อ ฮักท่านประยุทธ์, รักแล้วรักเลยเลือกลุงตู่ พวกเรารักลุงตู่, สู้ต่อไปเพื่อชาวไทยนะลุงตู่, ชาวไทยในปารีสสนับสนุนท่านประยุทธ์เป็นนายกฯของคนไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image