“องอาจ” จี้นายกฯ แก้ข้าราชการทุจริตอย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการเปิดโปงตรวจสอบการทุจริตของข้าราชการจากหลายกระทรวงว่า การทุจริตที่กำลังถูกตรวจสอบอยู่ขณะนี้เป็นการทุจริตที่สร้างความสะเทือนใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เริ่มจากการทุจริตเงินทอนวัดของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ จนมาถึงการทุจริตปลอมแปลงเอกสารรับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และผู้ป่วยโรคเอดส์ที่กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ไปจนถึงการทุจริตที่กระทรวงศึกษาธิการในโครงการเสมาพัฒนาชีวิตเงินทุนการศึกษาเด็กนักเรียนหญิงเหยื่อตกเขียว รวมถึงทุจริตอาหารกลางวันนักเรียนเด็กอนุบาล จะเห็นได้ว่าเป็นการทุจริตในหน่วยงานที่ข้าราชการควรมีคุณสมบัติพิเศษเรื่องศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม มีจิตเมตตา เอื้ออารีต่อผู้ต้องการความช่วยเหลือและเด็กนักเรียนเป็นพิเศษ แต่ปรากฏว่าข้าราชการส่วนหนึ่งในหน่วยราชการที่มีการทุจริตเหล่านี้กลับมีคุณสมบัติตรงกันข้ามชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน คือเป็นข้าราชการที่มีจิตสำนึกที่เลวร้าย ไร้ศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมอย่างสิ้นเชิง
นายองอาจ กล่าอีกว่า จากการตรวจสอบการทุจริตโดยข้าราชการที่ฉ้อฉลเหล่านี้จะมีลักษณะคล้ายๆ กันคือ 1. ทุจริตกันต่อเนื่องมาเป็นเป็นระยะเวลานาน 2. มีการทุจริตร่วมมือกันเป็นขบวนการ และ 3. ในหลายกรณีมีข้าราชการระดับสูงร่วมมือด้วยโดยเฉพาะการทุจริตที่สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นการทุจริตที่มีความเป็นไปได้สูงที่มีการวางเครือข่ายอำนาจ สร้างอิทธิพล ดันพวกพ้องตนเองขึ้นมามีอำนาจมีตำแหน่งสูงๆ จากรุ่นสู่รุ่น จนสามารถทุจริตได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ข้าราชการระดับสูงบางคนเกษียณออกจากราชการไปแล้ว ก็ยังมีอิทธิพลในการดันคนของตัวเองขึ้นมามีอำนาจได้ต่อเนื่อง เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันตามปกติ การทุจริตจะมีนักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจสมคบร่วมมือกัน แต่ขณะนี้ไม่มีนักการเมืองจากการเลือกตั้งก็ยังพบการทุจริตกระจายอยู่ทั่วไป เป็นการทุจริตโดยข้าราชการประจำล้วนๆ ไม่มีนักการเมือง พ่อค้า นักธุรกิจมาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะมีนักการเมืองจากการเลือกตั้งหรือไม่มี ข้าราชการส่วนหนึ่งก็ทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวงเงินงบประมาณที่มาจากภาษีอากรของประชาชนจนอิ่มหมีพีมันกันทั่วหน้า
“เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตของข้าราชการให้ได้ผล ขอฝากให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการอย่างจริงจังดังนี้
1. ปฏิรูปข้าราชการ ป้องกันการทุจริตแบบยกเครื่องทั้งระบบ 2. ขุดรากถอนโคนเครือข่ายอิทธิพลของข้าราชการระดับสูงที่ฝังรากลึกอยู่ตามกระทรวงต่างๆ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่ร่วมมือกันทุจริต 3. สร้างจิตสำนึกใหม่ให้ข้าราชการไทย พร้อมทำงานรับใช้ประชาชน โดยเฉพาะผู้คนที่ด้อยโอกาสในสังคม ผมอยากเห็นนายกรัฐมนตรีใช้เวลาที่เหลืออยู่จนกว่าจะมีการเลือกตั้งทุ่มเทพลังในการป้องกันปราบปรามการทุจริตของข้าราชการให้ได้ผลอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้การทุจริตโดยข้าราชการเป็นมะเร็งร้ายที่ฝังรากลึกในสังคมไทยอีกต่อไป” นายองอาจ กล่าว
