บิ๊กตู่ชี้อังกฤษ-ฝรั่งเศสเชิญมา เพราะเห็นศักยภาพ ลั่นไม่เคยสั่งจับใคร แค่ จนท.ทำตาม กม.

“บิ๊กตู่” ระบุ “อังกฤษ-ฝรั่งเศส” เชิญมาเพราะเห็นศักยภาพ ย้ำนายกฯตู่ไม่เคยจับใครลงโทษ มีแต่จนท.ทำตามกม. บอกเป็นทหารมา 60 ปี เบื่อลงโทษคน-ใช้อำนาจ ชี้อนาคตรัฐอำนาจลด เหตุปชช.เข้าถึงการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างพบปะคนไทยในฝรั่งเศส เพื่อเล่าสถานการณ์ในประเทศไทย และแนวความคิดของนายกรัฐมนตรีในการทำงาน ระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายน ตอนหนึ่งว่า วันนี้ที่ตนเลือกมายุโรปไม่ใช่ว่าเขาเกลียดตน แล้วตนต้องมา แต่ที่มาเพราะเขาเห็นศักยภาพในการที่เราเป็นศูนย์กลางของอาเซียน หากไม่เชิญตนก็คงไม่มาเพราะมาไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งเราต้องนำศักยภาพมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าเราไม่ทำอะไรใหม่ๆหากินแบบเดิมจากเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ที่เรามีการปฏิวัติทางเศรษฐกิจ และ การผลักดันการลงทุนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย(อีสเทิร์นซีบอร์ด) เกิดขึ้นในสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากมองว่าเรากำลังกินบุญเก่าอยู่ก็เป็นสิ่งที่ใช่ ทั้งในเรื่องการเกษตรเป็นสิ่งที่เราทิ้งไม่ได้ เพราะเราเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่เราก็ไม่สามารถผูกรายได้ของประเทศไว้กับการเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียวเพราะหลายประเทศก็มีการปรับตัวในเรื่องของความมั่นคงทางอาหาร และปัญหาของบ้านเราที่ราคาสินค้าเกษตรมีต้นทุนสูงเนื่องจากใช้แรงงานคน วันนี้รัฐบาลจึงต้องรื้อทั้งหมด นำระบบแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุกออนไลน์(Agri-Map) เกษตรทฤษฎีใหม่เข้ามาปรับใช้ ซึ่งเดิมเราเคยชินกับการชดใช้ราคาที่หากสนับสนุนมากไปก็จะผิดกติกาขององค์การการค้าโลก (WTO) ทั้งเรื่อง อ้อย น้ำตาล ข้าว ที่รัฐบาลนี้เข้ามาแก้ไขมิเช่นนั้นก็จะโดนฟ้องหลายกิจการ วันนี้จึงต้องสร้างการเรียนรู้ให้ตลาดนำการผลิตไม่ใช่การปลูกตามกันเหมือนเดิม และอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้อยู่ได้ในวันหน้า เราจะต้องวางแผน 20 ปีในวันข้างหน้ารัฐบาลนี้ได้วางแผนประเทศจะต้องหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง โดยสิ่งแรกที่เราเขียนไว้คือประเทศจะต้องมีความมั่นคงทางทหาร ชีวิตและทรัพย์สิน ความมั่งคั่งที่ปัจจุบันมีคนกว่า 14 ล้านคน ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งไม่ต้องเสียภาษี แต่เราจะหวังให้คนเหล่านี้ไม่ต้องเสียภาษีไปตลอดไม่ได้ จะต้องทำให้คนเหล่านี้มีรายได้สูงพอที่จะเข้าไปในระบบภาษี เพราะปัจจุบันมีคนเสียภาษีอยู่ 10ล้านคน หักลดหย่อนภาษีก็เหลือประมาณ 6-7 ล้านคน ที่เลี้ยงคน 60-70 คน เป็นการนำภาษีมาดูแลในเรื่องสาธารณสุข การศึกษาฟรี

“ขอถามว่าวันหน้าจะเอาเงินมาจากไหนถ้ามีคนเสียภาษีแค่เท่านี้ ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลมุ่งหวังจะเก็บภาษีทุกคน แต่ทุกคนจะต้องมีขีดความสามารถในการเสียภาษี รัฐบาลจึงตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อคนรายได้น้อย รายได้ปานกลาง และรายได้สูง ซึ่งในเรื่องของการรักษาพยาบาลในไทยใช้วิธีการหารเฉลี่ยตกหัวละ 4,000 บาท วันนี้ก็มีคนเรียกร้องอยากได้ค่าคลอดบุตร 50,000 บาท แล้วตนจะเอาเงินมาจากใคร จะไปรีดภาษีจากใคร ขอให้มองสองด้านคิดว่าจะหาเงินมาจากไหน ไม่สามารถไปพึ่งการส่งออกได้ จึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้แต่ละหมู่บ้านในชุมชน มีนโยบายไทยนิยม หมู่บ้านละ 2-3 แสนบาท ตำบลละ 3-5 ล้านบาท เพื่อสร้างความเข้มแข็งไม่ใช่การแจกเงินเหมือนที่ผ่านมาให้ไปแล้วไปปล่อยกู้แล้วหายคนก็ชอบ แต่พอมาทำแบบนี้แล้วคนไม่รักตน แต่วันหน้าคนต้องนึกถึงว่าสิ่งที่ตนทำคืออะไร เพราะตนทำในสิ่งที่เป็นส่วนรวม ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่จะทำให้ทุกคนพอใจ อย่างไรก็ตามทุกประเทศคิดในเรื่องนี้มานาน แต่เพราะการเมืองโตกว่าไทย มีการปฏิรูปจนได้บุคลากรที่ดี อย่างอังกฤษที่ไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นรายลักษณ์อักษร แต่ก็สามารถปกครองได้มาอย่างยาวนาน ในขณะที่ของเราเขียนแล้วเขียนอีก เราจะไปถึงเขาได้หรือไม่ตนก็ไม่อยากเปรียบเทียบ แต่หากคนของเราสามารถรวมกันได้ เป็นหนึ่งเดียวกันได้ เห็นต่างได้แม้ใครๆจะไม่ชอบตน ตนก็ไม่ว่าและขอฝากความคิดถึงไปถึงแม้เขาจะไม่รักตนก็ตามแต่ในเมื่อเป็นคนไทยเหมือนกัน ตนทำให้ประเทศไทย และครอบครัวทุกคนที่อยู่ในไทย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรามองอนาคตเราถึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีออกมา ซึ่งมี 6 ด้าน คือ ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม การปฏิรูประบบราชการ ที่ต้องปรับตัวไม่เป็นศัตรูกับประชาชนแต่ก็ไม่ถึงเป็นค่ารับใช้ของประชาชน ให้เป็นเพื่อนกันอยู่ร่วมกันหรือที่รัฐบาลเรียกว่า ประชารัฐ บางประเทศเป็นประเทศเล็กๆ แต่เก่งในเรื่องของการค้าขาย ใช้สติปัญญา ซึ่งของเราก็มีแต่ใช้ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง บางทีว่างๆก็ทะเลาะกันสักหน่อย แหย่ซ้ายทีขวาทีก็ตีกันตาย ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ลองเปิดดูสื่อสิ ในหนังสือพิมพ์เปิดดูทุกวัน ในโซเชียลมีเดียเปิดดูแล้วกันค่อนข้างจะนอนเซ็นส์ สาระน้อย ไร้สาระเยอะแต่ทำให้คนรู้สึกมีส่วนร่วม แชร์ต่อเดี๋ยวจะหาว่าไม่รู้ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง แต่แชร์เพื่อให้รู้ว่าฉันรู้ สรุปว่าแบกภาระคนอื่น กลุ้มใจไปกับเขา โกรธไปกับเขาด้วยไปด้วย นั่นไงถึงเกิดคนสองข้างเสมอ วันนี้เรื่องเหล่านี้ต้องค่อยๆลดลงไป มันห้ามไม่ได้ โลกเป็นแบบนี้เพราะทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้

Advertisement

“วันนี้ทุกประเทศในโลกมีการวิเคราะห์มาแล้วว่า มันจะมีปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน ในการปกครองรัฐจะอำนาจน้อยลง เพราะประชาชนเข้าถึงโซเชียลมีเดียการสื่อสารด้วยตนเอง นี่คือเสียงของประชาชน ที่บางครั้งเราตรวจสอบไม่ได้ว่าจริงหรือไม่จริง จะไปก้าวล่วงเรื่องสิทธิมนุษยชน จะไปตรวจจับไม่ได้ยกเว้นคนที่จงใจ ประเภทด่าทุกวันไม่มีข้อเท็จจริงบิดเบือนจะต้องโดนลงโทษ ทุกประเทศทำอย่างนี้หมด ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตู่จับคนมาลงโทษ มันเขียนทุกวัน ผมจับใครมาลงโทษสักคนไหม ยังไม่เคยต้องไปสั่ง เจ้าหน้าที่เขาทำ มีกฎหมายอยู่หากใครทำเกินเลยก็ต้องจับปรับสอบสวนเท่านั้นเอง กลายเป็นว่าผมไปปิดกั้นคน ถ้าผมทำหน้าที่ขนาดนั้นก็ไม่ต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรอก มีข้าราชการทำงาน 2-3 ล้านคน ส่วนหน้าที่ผมคือเล่นงานคนไม่ทำงาน นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่วางแผน ขับเคลื่อนนโยบาย ติดตามการปฏิบัติ ให้คุณให้โทษเจ้าหน้าที่ และคิดแต่อะไรที่เป็นประโยชน์ไม่ได้คิดจะขี้โกง ได้ตัง ได้เงิน ผมไม่มีความต้องการอะไรอีกแล้ว ชีวิตผมจบไปตั้งนานแล้วในเรื่องรับราชการ เป็นทหาร 60 ปีแล้วเบื่อจะตายอยู่แล้ว คำว่าเบื่อคือเบื่อที่จะลงโทษคน เบื่อที่จะต้องใช้อำนาจ หลายคนไม่เคยมีอำนาจก็อยากจะมีอำนาจ คนที่มีอำนาจแล้วก็ไม่อยากมีอำนาจ เพราะเขารู้ว่าการมีอำนาจมันยาก เพราะอำนาจมีไว้ใช้ทำความดีให้คุณ แต่อีกด้านหนึ่งอำนาจก็มีไว้ให้โทษคนอื่น ในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่งไม่มีใครอยากให้ร้ายใคร แต่มันจำเป็นโดยเฉพาะทหาร ราชการก็มีระเบียบวินัยของเขา ดังนั้นสิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือการบริหารจัดการแผ่นดินซึ่งจำเป็นต้องปรับใหม่ ฉะนั้นจะอยู่ในหัวข้อหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ ที่มี 6 ข้อ ถามว่ายุทธศาสตร์ชาติของผมมีปัญหากับการเมืองตรงไหน ไม่มี และข้อสุดท้ายของยุทธศาสตร์ชาติ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผมจึงต้องมาต่างประเทศ ซึ่งไทยมีงบประมาณรายจ่ายปีละ 3 ล้านล้าน ยังไม่พอใช้เลย หาภาษีเงินได้ยังไม่ถึงเลย จึงต้องทำงบประมาณขาดดุลตั้งรายจ่ายไว้มากกว่ารายรับแต่ก็ทำได้ เพราะเรามีกฎระเบียบการควบคุมการเงินการคลัง รัฐบาลนี้ยังไม่เคยทำอะไรผิดตรงนี้เลยยังอยู่ในกรอบวงเงินใช้ทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทั้งนี้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีต้องวางไว้ตั้งแต่วันนี้ และจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทุก 5 ปี มาทบทวนสิ่งที่เขียนไว้ว่าทำได้หรือไม่ แต่ไม่ได้เขียนล็อกอย่างที่หลายคนเข้าใจ เขาพยายามจะบิดเบือนทุกท่านที่ออกมาพูด ทั้งหมดนี้เป็นแผนที่เขียนเอามาไว้แล้วจะต้องปฏิบัติ ซึ่งแผนจะเขียนเท่าไหร่ก็เขียนมาแต่จะต้องทำในกรอบนี้บ้าง ไม่ใช่ทำประชานิยมกันอย่างเดียว ให้ในกลุ่มที่ชอบซึ่งเป็นเรื่องของคะแนนเสียง จนกระทั่งที่เหลือไม่ได้อะไร วันนี้ไปดูถนนในต่างจังหวัดยังไม่เท่ากันเลย รัฐบาลพยายามจัดสรรงบประมาณให้ใกล้เคียงกัน ให้ท้องถิ่นเกิดความเข้มแข็ง เป็นธรรมเท่าเทียมภายใต้กฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เท่าเทียมกันได้ เพราะแม้แต่นิ้วมือยังไม่เท่ากันเลย ความยุติธรรมอยู่ที่คนปฏิบัติคนบังคับใช้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ที่เรามาได้ เพราะเรามีอะไรมาขาย ตนมีอีอีซีที่กำลังเกิดขึ้นในภาคตะวันออก เชื่อมโยงจากอีสเทิร์นซีบอร์ดของ พล.อ.เปรม ซึ่งวันนี้มีคนสนใจจำนวนมากทั้งในเรื่องของอุตสาหกรรมใหม่ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับสังคมสูงวัยในอนาคต และเราไม่สามารถพึ่งแรงงานต่างด้าวได้เพียงอย่างเดียว วันนี้เราต้องไปอีกขั้นเป็นศูนย์กลางการบิน ศูนย์กลางการรักษาพยาบาล ที่ทุกคนทำอย่างเหน็ดเหนื่อยกว่าจะนำมาพูดกับเขาได้ มีสินค้ามาขาย ซึ่งเขาเห็นว่าเราเป็นศูนย์กลางอาเซียน และในปีหน้าก็จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ซึ่งมีนโยบายไทยแลนด์พลัสเป็นสิ่งที่อังกฤษสนใจ เนื่องด้วยนโยบาย Brexit ทำให้มีปัญหาทางเศรษฐกิจจึงต้องมองหาตลาดในอาเซียน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image