ขรก.บำนาญ เข้าชื่อยื่นสนช ค้านกม.วิธีคำนวณเงินบำนาญ กบข.แบบใหม่ ชี้ ลิดรอนสิทธิวัยเกษียณ
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่รัฐสภา พ.ต.วชิพร ยี่ทอง ตัวแทนข้าราชการและข้าราชการบำนาญทั่วประเทศ พร้อมคณะ เข้าชื่อยื่นหนังสือต่อประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ผ่านนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จำนวน 3 ฉบับ คือ พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ….ร่างพ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ…และร่าง พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … โดย พ.ต.วชิพร กล่าวว่า เนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับ ยังมีการลิดรอนสิทธิ ของข้าราชการในเรื่องการคำนวณเงินบำนาญสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)ที่ถูกปรับสูตรคำนวณใหม่ จากเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย คูณด้วยเวลาราชการแล้วนำมาหารด้วย 50 แต่ผลที่ได้ต้องไม่เกินเพดาน ร้อยละ 7 ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายด้วย ส่งผลให้ข้าราชการมีรายได้หลังเกษียณลดลง
“ผมสงสัยว่าการเสนอร่างกฏหมายของกระทรวงการคลังที่กำหนดให้หารด้วย 50 มีที่มาอย่างไร ซึ่งมีใครอายุรับราชการถึง 50ปี บ้าง มาตรา 23 วรรคสาม ระบุไว้ชัดเจนว่าการคำนวณวัน เวลา รับราชการคิดจากอายุ 18 ปีบริบูรณ์จนถึงเกษียณ ซึ่งคำนวณแล้วมีอายุราชการแค่ 42 ปี และหากคิดจากความเป็นจริงปัจจุบัน การเริ่มชีวิตราชการต้องมีคุณวุฒิปริญญาตรี กว่าจะเข้ารับราชการอายุเกือบ 30 ปี มีอายุราชการ 30 ปีจนเกษียณเท่านั้น หากหารด้วย 50 อะไรจะเกิดขึ้นในวัยเกษียณ จึงเป็นเรื่องที่ข้าราชการต่างเดือดร้อนอย่างมาก จึงได้เสนอให้แก้ไขวิธีการคำนวณเงินบำนาญ กบข.ให้กลับมาใช้ตามเดิมคือ เงินเดือนสุดท้ายไม่ต้องหาค่าเฉลี่ย คูณด้วยเวลาราชการไม่เกิน 30 ปี หารด้วย 30 ซึ่งเป็นไปตามสากล พร้อมเสนอให้ยกเลิกโครงการเออร์ลี่รีไทร์ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลไม่ต้องแบกรับภาระด้วย”พ.ต.วชิพร กล่าว
