จนท.น้อมนำรับสั่ง“ในหลวง”จัดระเบียบพื้นที่ให้ดี – มท.1.วอนสื่ออย่าเสนอภาพร่างทรงฯ

จนท.น้อมนำรับสั่ง “ในหลวง” จัดระเบียบพื้นที่ดำเนินการช่วย ทีมหมูป่า 13 ชีวิต ด้าน มท. 1 แจงแนวทางปฏิบัติ บอกใช้ทุกทาง ตอนนี้เตรียมเจาะผนังถ้ำเพื่อหาทางเข้าเพิ่ม

เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 27 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทย แถลงถึงกรณีการให้ความช่วยเหลือเด็กนักฟุตบอลทีมหมูป่า 13 คน ที่ติดถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย ว่า 1.หลังจากเกิดเหตุแล้วทางสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับสั่งผ่านราชเลขานุการส่วนพระองค์ว่าท่านทรงห่วงใยเด็กน้องๆเยาวชนทุกคน รวมทั้งให้กำลังใจเยาวชน และครอบครัว รวมทั้งพระราชทานพรให้ปลอดภัย นอกจากนี้ยังพระราชทานพรมห้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกฝ่าย ขอให้ทำให้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ทรงพระราชทานเพิ่มเติมในเรื่องการบริหารจัดการการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทรงให้แนวทางปฏิบัติโดยสรุปว่า ให้แบ่งพื้นที่ให้ดี โดยแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนหน้า ส่วนหลัง และส่วนสนับสนุน สำหรับประชาชน หรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติก็ให้ไปอยู่ในอีกพื้นที่หนึ่ง เพื่อจะได้ไม่กีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ยังพระราชอาจิตอาสาลงไปทำอาหาร และดูแลครอบครัวของน้องๆทุกคน ซึ่งคณะทำงานทุกคนก็น้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อมนำไปปฏิบัติ 2.ขอเรียนสื่อว่า ขณะนี้มีภาพออกไปทั่วโลก การสื่อสารรวดเร็ว วิถีไทยเราก็มีหลายๆเรื่องซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เช่น การเข้าทรง ฯลฯ ในความคิดตน หากช่วยกันไม่นำเสนอไปน่าจะเป็นสิ่งดีต่อประเทศชาติ เพราะคนที่เขาดู หรือบริโภคสื่อจากต่างประเทศเขาไม่เข้าใจวิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันนี้ของเราเลย แล้วเมื่อเขาไม่เข้าใจ เขาก็จะตีค่าสังคมเราไป เราไม่มีโอกาสไปชี้แจง หรือไปพูด ดังนั้น สิ่งใดที่ควรเสนอไปก็ช่วยกันเสนอให้เป็นคุณกับประเทศ สำหรับการบริหารจัดการในพื้นที่ ทุกคนร่วมมือกันดีมาก ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชน องค์กรต่างๆ หน่วยงานทุกหน่วย ทุกคนร่วมมือกัน ไม่ว่าคณะทำงานจะร้องขอสิ่งใดไปทุกคนให้การสนับสนุนเต็มที่ มีแต่สิ่งดีงาม ภาพที่ออกไปไม่ควรจะเป็นภาพที่เจ้าหน้าที่นอน แล้วจะอธิบายโลกเขาได้อย่างไร ในเมื่อเขาทำงาน 24 ชั่วโมง ไม่ได้กลับ กินนอนอยู่ที่นั่น

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า 3.เขานี้เป็นเขาหินปูน ไม่ใช่หินแกรนิต หมายความว่า ดินที่อยู่รอบเขาทั้งหมดเมื่ออุ้มน้ำ น้ำจะลงไปในตัวเขา มีการชะดินออกไปจนเป็นโพรง น้องๆเข้าไปในช่วงที่น้ำแห้ง แต่เมื่อน้ำไหลมาเขาก็ออกมาไม่ได้ เพราะน้ำปิดทางแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เร่งออกตามหา แต่ติดตรงน้ำนี้ ก็ขอนักประดาน้ำ จนมาขอกำลังจากซีล แต่ถ้ำมืดมาก และมีขวากหนามเพราะไม่ใช่พื้นที่ราบ รวมถึงภูมิประเทศก็มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลามีทรายไหลมา บางช่วงแคบมาก นี่คือความยากลำบาก อากาศก็น้อย แม้ใช้ระบบของซีลคือไม่หายใจเอาฟองอากาศออกมาก็ยังเป็นสิ่งยาก ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาทางหน่วยซีลขอให้มีการสูบน้ำออกไปให้ได้บ้าง เขาต้องการให้มีพื้นที่ระหว่างเพดานสัก 10-20 เซนติเมตร เพื่อจะได้ไม่ต้องดำน้ำตลอด ซึ่งเราก็ได้ดำเนินการติดปั๊มเพิ่ม เรามั่นใจว่าเด็กๆยังคงอยู่ เพราะเขาเองมีอาหารเข้าไปส่วนหนึ่ง และเป็นนักกีฬา รวมถึงมีความชำนาญพอสมควร หนทางของเราอย่างแรกคือเราจะให้ทีมซีลเข้าไปให้ได้ และพยายามสูบน้ำออกให้มากที่สุด แนวทางที่สองคือเราใช้ชุดลาดตระเวรทั้งหมดที่มีเดินทั้งเขาเพื่อหาช่องลงให้ได้ เพราะขณะนี้ฝนตกตลอดทั้งวันมีหมอกมากเราบินไม่ได้ วันนี้ตนเรียนนายกฯว่าอาจจะต้องเตรียมหนทางหากเราไม่สามารถดำเข้าไปได้ คือต้องหาทางเข้าจากข้างบน ทางกระทรวงทรัพย์ฯก็มีเครื่องเอ็กเรย์ ทางกระทรวงพลังงานก็มีเครื่องเจาะที่สามารถส่องกล้องลงไปได้ ซึ่งเครื่องมือต่างๆบางส่วนเดินทางไปแล้ว คาดว่าพรุ่งนี้ (28 มิถุนายน) จะเริ่มดำเนินการใช้เครื่องมือได้ เพื่อเพิ่มช่องทางที่จะหาทางเข้าจากด้านบนให้ได้ ทำคู่กันไป และเชื่อว่าจะต้องสำเร็จ ต้องเอาเด็กๆออกมาให้ได้ และต้องทันเวลา เราทำงานกันเต็มที่ น้องๆต้องไปอยู่ในที่ที่น้ำไม่ท่วม ซึ่งตนคิดว่าไม่ไกลจากทาง 3 แยกนัก และคาดว่าเขายังจะพอมีแสงไฟ เชื่อว่าเขาคงไม่เปิดไฟพร้อมกันหมด

Advertisement

เมื่อถามว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมากับกำลังสูบของเครื่องสูบน้ำเป็นอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้าฝนตกลงมา 8 แล้วเราสูบออก 10 แบบนี้ได้ แต่หากเราสูบ 10 แต่ฝนตกลงมา 15 แบบนี้ก็ลำบาก ซึ่ง ณ ขณะนี้ฝนที่ตกลงมามีปริมาณที่มากกว่า เราก็ต้องเพิ่มปั๊มเข้าไปอีก ทั้งนี้ยอมรับว่าปัญหาหลักขณะนี้คือเรื่องปริมาณน้ำ เพราะเขาอุ้มน้ำไว้และคลายน้ำออกมาเรื่อยๆ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image