ยิ่งใกล้ เลือกตั้ง ยิ่งมาก แรงเสียดสี ยิ่งแทงใจ คสช.

เหมือนอัดอั้นตันใจติดมาจากประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส

ทันทีที่ลงเหยียบพื้นดินไทย หลังการเยือนสองประเทศใหญ่ในทวีปยุโรปอย่างเป็นทางการ เมื่อบ่ายวันที่ 26 มิถุนายน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเมือง
ชนิดถึงพริกถึงขิง ว่า

การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ ไปด้วยศักดิ์ศรีของตัวเอง โดยเอาคนไทยและประเทศไทยไปด้วย เราไปเพื่อทำเพื่อประชาชนคนไทยทุกคน

Advertisement

ขอให้สื่อมวลชนเปิดโอกาสให้มีการพูดคุยกันมากขึ้นเพื่อหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่จะเชียร์กันไปมาคนละข้างความขัดแย้งก็จะเป็นอยู่แบบนี้

วันนี้อ่านข่าวจากสื่อและโซเชียลมีเดียแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะทำให้เกิดการแบ่งแยกเป็นสองฝ่าย

และขอถามว่าสื่อมวลชนควรนำเสนอสิ่งที่คนพูดไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปหรือไม่

Advertisement

ไปให้เกียรติเขาทำไม นำเสนออีกทำไม เราควรให้เกียรติคนที่ทำงานให้ประเทศในตอนนี้ไม่ใช่หรือ

ไม่ใช่ให้เครดิตคนที่ทำผิด แล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศ

“ขอร้องว่าอย่าไปให้เครดิตกับคนไม่สร้างสรรค์ โจมตีประเทศตัวเอง

ไปอาศัยประเทศคนอื่นเขาอยู่ แล้วเกิดมาเป็นคนไทยทำไม ไปอยู่กันแบบคนชั้นสองขออาศัย ขออยู่อย่างนี้นะหรือ อย่าทำเพราะไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ

สิ่งที่ควรทำคือกลับมาสู่ครรลองของกฎหมาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ต่อสู้ทางคดี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

ถ้าคิดว่าตัวเองถูกขอให้กลับมา ที่พูดนี้หมายถึงทุกคน ไม่ได้หมายถึงใครคนใดคนหนึ่ง เพราะสิ่งที่ผมทำวันนี้นั้น ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแม้แต่ซักนิดเดียว

ผมไม่เคยได้ประโยชน์จากสิ่งที่ทำในวันนี้เลย ประโยชน์จะตกกับคนข้างหลัง

ผมและคณะรัฐมนตรีเหนื่อยกันทุกคน”

ขอร้องอย่าเอาการเมืองมาเป็นเรื่องเดียว เพราะประเทศอื่นใช้เศรษฐกิจเป็นตัวนำไม่ใช่การเมือง

ไทยเรามีสภาเหมือนประเทศอื่นๆ ซึ่งตนไม่สามารถสั่งการได้ ถ้าสั่งได้คงไม่เป็นเช่นนี้

ตนไม่สามารถสั่งการสภาหรือศาลได้ทั้งนั้น แม้จะมีอำนาจตามมาตรา 44 ก็ตาม

แต่ก็ไม่ควรสั่ง

ก่อนให้สัมภาษณ์ย้ำในวันที่ 27 มิถุนายนอีกครั้ง ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี

ถึงสถานการณ์ก่อนการเลือกตั้งว่า ก่อนเลือกตั้งอยากให้บ้านเมืองสงบ เราจะต้องปรองดองให้ได้ก่อน

ตนไม่อยากไปทะเลาะเบาะแว้งกับใครสิ่งที่ได้พูดไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งโจมตีคนที่หนีไปอยู่ต่างประเทศ

เพราะระหว่างเดินทางเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส มีคนมาต่อต้าน

“ซึ่งบางทีก็รำคาญ ไม่อยากให้ทำเช่นนั้น ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้ไปต่อว่าอะไรใคร

วันนี้ผมต้องทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตย เลือกตั้งให้ได้ ซึ่งก็ได้
มีการคุยกันมาแล้ว

ถ้าไปไม่ได้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน

จึงอยากให้ทุกคนช่วยกัน”

น่าสนใจว่า
เพียง “แง้มประตู” ไปสู่การเลือกตั้ง แรงกดดันและปฏิกิริยารอบข้างก็ถาโถมเข้าใส่

จนทำให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.มีปฏิกิริยาตอบโต้ทันควันและรุนแรงประมาณนี้

หากเส้นทางสู่การเลือกตั้งเดินหน้าต่อไป

แรงเสียดทานและสิ่งอันไม่พึงใจตลอดรายทางทั้งหลาย ที่จะเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและความแหลมคมตามเวลา

จะส่งผลอย่างไรต่อ พล.อ.ประยุทธ์

จะพิจารณาว่าท่าทีและปฏิกิริยาเหล่านี้ เป็นอุปสรรคขวากหนามต่อความสุขสงบสันติและการปรองดอง

อันเป็นประเด็นหลักที่ คสช.ยึดถือและประกาศมาโดยตลอดหรือไม่

แล้วจะส่งผลต่อเนื่องเลยไปถึงกำหนดการเลือกตั้งหรือไม่

หรือจะส่ง “ผลข้างเคียง” เช่น การยุบพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง

ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “คนไม่สร้างสรรค์ โจมตีประเทศตัวเอง ไปอาศัยประเทศ
คนอื่นเขาอยู่” หรือไม่

อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป จากวันนี้ถึงวันเลือกตั้ง

ถ้ามีการเลือกตั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image