“สมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดเชียงราย-พะเยา” ร้อง “สามารถ” หลังการยาสูบประเทศไทยประกาศงดซื้อใบยาสูบ ชี้มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 5 หมื่นครอบครัว จี้นายกฯ-ผู้เกี่ยวข้องดูแล
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุว่า สมาคมผู้บ่ม ผู้เพาะปลูก และผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดเชียงราย และพะเยา นำเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบมาเล่าสู่ให้ฟังด้วยความกังวล และห่วงใย เนื่องจากผู้ว่าการยาสูบแห่งประเทศไทย แถลงข่าวว่าการยาสูบแห่งประเทศไทยจะงดรับซื้อใบยาสูบตั้งแต่ฤดูกาลเพาะปลูกที่จะถึงนี้เป็นต้นไป และคงงดซื้อต่อเนื่องไปอีก 3 ถึง 5 ปี ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ประการ คือ ประการแรก การยาสูบไม่มีศักยภาพหรือฐานะทางการเงินมากพอที่จะรับซื้อใบยา และประการที่สอง ปัจจุบันมีใบยาสูบเหลืออยู่ในคลังพอจะใช้ผลิตบุหรี่ไปได้อีก 3-5 ปี การยาสูบแห่งประเทศไทย มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง ดำเนินธุรกิจผูกขาดการผลิตและจำหน่ายบุหรี่มานาน แต่ละปีส่งเงินเข้ารัฐหลายพันล้าน ปีล่าสุดการยาสูบสามารถส่งเงินเข้ารัฐได้ถึงเก้าพันล้านบาท ทุกปีพนักงานการยาสูบต่างมีความสุขได้โบนัสกันคนละหลายเดือน สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบทั่วประเทศซึ่งมีอยู่ประมาณ 50,000 ครอบครัว การยาสูบใช้เงินซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ปีละประมาณ 2,000 ล้านบาท นโยบายของผู้ว่าการยาสูบที่ประกาศจะงดรับซื้อใบยาสูบจากพี่น้องเกษตรกรจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ มีผู้ที่จะได้รับผลกระทบ ทั้งครอบครัวพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกและผู้เกี่ยวข้องในระบบ ภาคเหนือและภาคอีสานรวมแล้วกว่าห้าแสนคน ฝากถึงผู้บริหารการยาสูบแห่งประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกรัฐมนตรี ช่วยดูแลแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรชาวไร่ยาสูบด้วย อย่างน้อยควรนึกถึงคุณูปการของเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ และทุกฝ่ายที่มีส่วนทำให้รัฐมีรายได้จำนวนมากมายมหาศาลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
