เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือทีมนักเตะเยาวชนทีมหมูป่า อคาเดมี่แม่สาย พร้อมโค้ช 13 ชีวิต ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ว่า สำหรับวิธีการช่วยเหลือนั้น ก่อนอื่นจะต้องทำให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง สอนให้เด็กดำน้ำได้ก่อน ถึงจะสามารถช่วยเหลือออกมาจากถ้ำ หากต้องใช้วิธีการนำเด็กออกมาจากปากถ้ำ ส่วนวิธีการเจาะถ้ำมาจากข้างบนก็ไม่รู้ตำแหน่งที่ชัดเจนของเด็ก ขณะเดียวกัน ทีมช่วยเหลือกำลังสำรวจจุดที่ใกล้กับตำแหน่งที่เด็กอยู่มากที่สุดเพื่อจะสามารถนำเด็กขึ้นมาได้ ทั้งนี้ การใช้วิธีช่วยเด็กโดยให้เด็กดำน้ำออกมาจากทางปากถ้ำ น่าจะเป็นหนทางปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กได้เร็วที่สุดกว่าวิธีการอื่น แต่ตอนนี้เด็กก็ยังว่ายน้ำไม่เป็น อย่างไรก็ดี ตนก็ติดตามความคืบหน้าต่อเนื่องทุกวัน
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การส่งกำลังพลที่มีขีดความสามารถในการดำน้ำแบบ Combat Diver และจบหลักสูตรมนุษย์กบเพิ่มเติม 31 ราย จากกองทัพบกเพื่อไปร่วมปฏิบัติการกับทีมซีลของกองทัพเรือ ก็ไม่เห็นมีอะไร แต่อย่างที่บอกว่าจะทำให้เด็กแข็งแรงก่อน เพื่อจะฝ่าฝันอุปสรรคออกจากทางปากถ้ำให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสรัฐบาลจะมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนักกีฬาทั้ง 13 รายนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และว่า ส่วนหน้ากากออกซิเจนสำหรับการดำน้ำไม่มีขนาดสำหรับเด็กนั้น ยืนยันว่ามี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ส่วนวิธีการอื่นนอกเหนือจากการดำน้ำมีหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้ช่วยคิดหน่อย
เมื่อถามอีกว่าการโยกย้ายนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “นายกฯบอกไปแล้วว่าคนไหนเป็นคนดี จะไปอยู่ไหนพื้นที่ไหน แม้แต่จังหวัดเล็กๆ ก็แล้วแต่ ก็จะช่วยทำให้พื้นที่นั้นดีขึ้น คนดีไปทุกพื้นที่ ทำพื้นที่นี้ดีแล้ว ก็ต้องให้ไปทำพื้นที่อื่นให้ดีต่อไป ไม่เห็นมีประเด็นอะไร จะถามให้ตีกันอยู่เรื่อย”
