‘สุวพันธุ์’ เผย ผลประชุมแก้ปัญหาคนเลี้ยงช้าง พร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์คนเลี้ยงช้าง

“สุวพันธุ์” เผย ที่ประชุมคกก.แก้ปัญหาคนเลี้ยงช้างเห็นชอบแผนแม่บทอนุรักษ์ช้าง พร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากคนเลี้ยงช้าง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาของราษฎรกลุ่มคนเลี้ยงช้าง ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ 3 ประเด็น ได้แก่ 1.แผนแม่บทการอนุรักษ์ช้างแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยยุทธศาสตร์หลายด้านที่ครอบคลุมทั้งเรื่องการส่งเสริม การอนุรักษ์ การดูแลทั้งช้างและผู้เลี้ยงช้างที่มีทั้งจากภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคเหนือ และอีสาน ไปจนถึงการประกอบอาชีพเลี้ยงช้าง นอกจากนี้ในแผนดังกล่าวยังได้เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการช้างแห่งชาติ และกองทุนช้างแห่งชาติ โดยทั้ง 2 ส่วนนี้ที่ประชุมก็เห็นชอบในหลักการ แต่เห็นว่าควรปรับปรุงรายละเอียดบางอย่าง รวมถึงต้องหารือกับฝ่ายกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องการตั้งกองทุนช้างแห่งชาติที่ต้องอิงข้อกฎหมายหลายฉบับ อาทิ พ.ร.บ.กองทุนหมุนเวียน ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรต้องมีการหารือกันระหว่างภาคประชาชน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อปรับปรุงรายละเอียดของแผนแม่บท และการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวให้ตรงกับข้อกฎหมาย โดยขอให้ส่งผลการหารือดังกล่าวกลับเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาของราษฎรกลุ่มคนเลี้ยงช้างภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนเตรียมนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป

นายสุวพันธุ์กล่าวอีกว่า 2.ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอเรื่องให้มีกลไกรับเรื่องราวร้องทุกข์จากคนเลี้ยงช้างที่มีคดี หรือข้อพิพาทระหว่างคนเลี้ยงช้างกับภาครัฐ ซึ่งเราคิดว่ากลไกที่มีอยู่ทั้งคณะกรรมการและศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานยุติธรรมจังหวัด สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สังกัดสำนักงานอัยการสูงสุด สามารถดำเนินการตรงนี้ได้ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้หน่วยงานเหล่านี้เป็นกลไกรับเรื่องราวร้องทุกข์จากคนเลี้ยงช้าง นอกจากนี้ได้แจ้งที่ประชุมให้ทราบถึงการรับรายงานจากภาคประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนเลี้ยงช้าง ว่าพวกเขามีคดีค้างเก่าอยู่ประมาณ 26 คดี ซึ่งส่วนใหญ่ขณะนี้อยู่ในชั้นของการอุทธรณ์และฎีกา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่ โดยที่ประชุมก็ได้รับไปดำเนินการดูแลให้ และ 3.ข้อเสนอจากกลุ่มผู้เลี้ยงช้างที่ขอให้ธนาคารของรัฐ อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำแก่คนเลี้ยงช้าง ทั้งในรูปของนิติบุคคลและปัจเจกบุคคล เพื่อช่วยเหลือทั้งการเลี้ยงช้างและเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลช้าง เพราะมีความสัมพันธ์ไปถึงเรื่องการท่องเที่ยวของประเทศด้วย ซึ่งผู้แทนจาก ธ.ก.ส.ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ายินดีที่จะให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้

นายสุวพันธุ์กล่าวว่า แม้ในอดีตรัฐบาลจะเคยมีแผนงานเกี่ยวกับการดูแลและอนุรักษ์ช้าง แต่เมื่อครบวาระแผนดังกล่าวก็หายไป ภาคประชาชนจึงร่วมกันดำเนินการให้มีการรื้อฟื้น และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยมีขึ้นตั้งแต่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จนกระทั่งตนเข้ามาดำรงตำแหน่งก็ได้นำเรื่องนี้มาสานต่อ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image