ปลัดสธ.แจงคืบหน้าอาการ 13 หมูป่า ยัน ปลอดภัยดี มอง แตกต่างจากกรณีเหมืองชิลี เพราะทีมหมูป่าสุขภาพจิตดี แต่ห่วงหลังออกรพ. รับมือสื่อ-สังคม อาจถามคำถามซ้ำๆ เล็งส่งจิตแพทย์ติดตามดูแล
เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 13 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ. เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการรักษาตัวของนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คนว่า ตนจะลงพื้นที่ไปติดตามอาการในวันพรุ่งนี้(14 ก.ค.) ซึ่งล่าสุดทุกคนสุขภาพดี แต่มี 3 รายที่มีอาการหูอักเสบ และปอดอักเสบ 3 ราย โดยอาการดีขึ้นแล้ว ไม่มีไข้ ส่วนบางคนที่มีไข้ต่ำๆก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เบื้องต้นยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงคือ อยากให้จิตแพทย์เข้าไปดูแลเรื่องสภาพจิตใจเมื่อออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว เพราะเป็นที่รู้กันว่าสังคมและสื่อจะให้ความสนใจเยอะ และจะมีการถามคำถามซ้ำๆ จึงต้องการให้จิตแพทย์ช่วยวางแผนร่วมกับครอบครัวในการรับมือสื่อและสังคม
เมื่อถามว่า ทั้ง 13 คนจะออกจากโรงพยาบาลได้เร็วสุดเมื่อใด นพ.เจษฏา กล่าวว่า อย่างน้อยต้องดูอาการให้ครบ 7 วันก่อน ซึ่งขณะนั้นผลเลือดที่ส่งไปตรวจตามที่ต่างๆ คงได้มาหมดแล้ว จากนั้นเราจะประเมินอีกครั้งว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน โดยขณะนี้ได้ผลตรวจเลือดเกือบครบทุกคนแล้ว แต่มีบางตัวอย่างต้องตรวจเช็คอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่พบว่ามีใครที่จะมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ
เมื่อถามว่า หลังออกจากโรงพยาบาล จะมีการติดตามเรื่องของสุขภาพจิตของทั้ง 13 คน หรือไม่ ปลัดสธ. กล่าวว่า ต้องมี แต่อยู่ที่ระยะเวลาว่าเราจะติดตามอย่างต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน ซึ่งใกล้ๆบ้านของทุกคนก็มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) รวมถึงมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ที่จะช่วยดูแลในเบื้องต้น ส่วนจะส่งแพทย์หรือจิตแพทย์ของกระทรวงลงไปดูแลเป็นระยะหรือไม่นั้น ตนกำลังประเมินอยู่
เมื่อถามว่า จะนำกรณีคนติดเหมืองที่ประเทศชิลีมาเป็นแนวทางศึกษาได้หรือไม่ นพ.เจษฎา กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าทั้งสองกรณีนั้นต่างกัน เนื่องจากเยาวชนทีมหมูป่ามีสุขภาพจิตดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือการที่เด็กเหล่านี้จะต้องอยู่กับสังคมและสื่อ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ แต่หากขออะไรไปรัฐบาลก็พร้อมสนับสนุน
เมื่อถามว่า กรณีสื่อต่างประเทศรายงานข่าวเรื่องของการใช้ยาสลบในตอนที่พาเด็กออกมาจากถ้ำหลวง นพ.เจษฎา กล่าวว่า เอาเป็นว่ายาที่ใช้นั้น เนื่องจากต้องการให้เด็กไม่ตื่นตระหนก อยู่ในภาวะที่สงบ ให้เจ้าหน้าที่พาตัวออกมาได้ เพราะเราเป็นห่วงว่าระหว่างออกมาจากถ้ำ เด็กอาจจะตื่นเต้น ตกใจ แต่รายละเอียดของตัวยานั้นต้องถามแพทย์ ยืนยันว่าการช่วยเหลือทุกขั้นตอนอยู่ในมือแพทย์ตลอดเวลา
