“วิษณุ” ชี้วิจารณ์ร่างรธน.ผ่าน “ไลน์-คลิป-วิทยุ-ทีวี” อาจเกิดปัญหา ย้ำต้องยึดขอบเขตตาม พ.ร.บ.ประชามติ ม.61 ระบุติดเข็ม-ธงแสดงตัว “รับ-ไม่รับ” ทำได้
เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีแนวคิดให้จัดทำข้อดี-ข้อเสียร่างรัฐธรรมนูญว่า จะไม่มีการเขียน เพราะไม่มีใครที่กล้าเขียน และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะไม่เขียนเรื่องดังกล่าว แต่ให้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์กันเอง คงไม่ต้องทำเอกสาร ซึ่งตามหลักการไม่ควรจะเขียนเพราะเป็นการชี้นำมากไป ไม่มีใครได้อะไรจากเรื่องนี้ และใช่ว่าเขียนไปแล้วคนจะเชื่อ สำหรับการชี้แจงทำความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญนั้น กรธ.เป็นคนร่าง จึงมีหน้าที่ชี้แจง เพราะไม่มีใครชี้แจงได้เท่ากรธ. โดยในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้กรธ.เป็นผู้ชี้แจง ขณะที่คำถามพ่วงประชามติ ได้ถูกกำหนดให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เป็นผู้ชี้แจง แต่ไม่ใช่ไปรณรงค์ให้รับหรือไม่รับ
นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนคนอื่นที่ไม่มีหน้าที่นั้น ได้มีการเขียนข้อห้ามไว้ในร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มาตรา 61 ถ้าหลีกเลี่ยงข้อห้าม อาทิ การพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความเท็จ ไม่ใช่คำหยาบคายหรือยั่วยุให้เกิดความแตกแยก และเป็นความเห็นของตัวเองทำได้ หากจะให้ยกตัวอย่างว่าเป็นประโยคแบบไหนนั้น ตนไม่อยู่ในฐานะที่จะชี้ขาดเรื่องนี้ แม้แต่กกต.ก็ไม่สามารถชี้ได้เช่นกัน แต่ต้องให้ศาลชี้ขาด ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดเขียนไว้ชัดเจนแล้วในมาตรา 61 ส่วนที่มีความสับสนกันอย่างวรรคสอง ในมาตรา 61 ที่ระบุว่าข้อความที่ถูกส่งทางแอพพลิเคชั่น “ไลน์” คลิปวิดีโอ สื่อวิทยุ โทรทัศน์ต้องไม่เป็นความเท็จนั้น ก็อาจจะเกิดปัญหา แต่อะไรที่มีความสุจริตใจ ตรงไปตรงมา ก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ ในการประชุมร่วมกับ กกต. กรธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติ เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ได้ยกตัวอย่างว่าการติดเข็ม เหรียญ หรือธงที่แสดงว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้นสามารถทำได้
เมื่อถามว่า การเชิญชวนให้คนอื่นคิดเหมือนตัวเอง ถือเป็นการรณรงค์หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คำว่า “รณรงค์” แปลว่าอะไร ตนไม่ทราบ เพราะถูกตัดไปจาก พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ถือเป็นการรณรงค์
