‘มาร์ค’ เตือน ครม.สัญจร จัดงบต้องดูความสำคัญ อย่าคิดว่าไปไหนต้องมีติดไม้ติดมือไปให้

แฟ้มภาพ

“มาร์ค” เชื่อ ปชช.เบื่อหน่ายเรื่องพลังดูดเรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง แนะ ครม.สัญจรจัดงบประมาณแต่ละพื้นที่ด้วยความจำเป็น ไม่ใช่ลงพื้นที่ตรงไหนต้องมีของติดไม้ติดมือตลอด

เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องพลังดูดทางการเมืองว่า ตนพูดชัดเจนไปแล้วว่า การเอาผลประโยชน์หรืออะไรมาใช้แลกเปลี่ยนกันทางการเมืองเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ดีแน่นอน มีแต่จะทำให้การเมืองแย่ลง แต่ว่าตนไม่ประสงค์จะไปต่อปากต่อคำต่อล้อต่อเถียงกับใครเรื่องนี้ เพราะพรรค ปชป.มุ่งมั่นในส่วนของการเตรียมเรื่องของการแก้ปัญหาให้กับประเทศมากกว่า ส่วนเรื่องกลุ่มสามมิตร กับ มหามิตร นั้น ตนมองว่าประชาชนก็คงจะเบื่อหน่าย ถ้าคิดว่าการเมืองมันก็เป็นเรื่องของผลประโยชน์ของนักการเมือง ใครจะอยู่ที่ไหนแล้วได้ดี ถ้าจะทำให้มีความเท่าเทียมกันกว่าปัจจุบันจะทำอย่างไร แล้วปัญหาทั้งหลายเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการศึกษา เรื่องอื่นๆ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะแยะ ตกลงมีแนวคิด หรือมีแนวทางของแต่ละฝ่ายที่จะมาเสนอตัวทำงานให้กับประชาชนอย่างไร อยากจะให้เป็นอย่างนั้นมากกว่า

เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ไปพบเจอพี่น้องประชาชนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) มองอย่างไร เป็นเรื่องมีการคุยกับผู้นำท้องถิ่น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเห็นว่าล่าสุดงดไปแล้ว ในส่วนนี้เพราะว่ากังวลว่าจะถูกตีความว่าเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งจริงๆ รูปแบบของ ครม.สัญจร มันก็มีแนวความคิดที่แตกต่างกันไปอยู่แล้ว การที่ผู้บริหารลงพื้นที่เพื่อมีโอกาสได้รับฟังประชาชนก็ดี มีโอกาสได้สัมผัสกับข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อมาปรับปรุงการบริหาร ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่ารูปแบบของ ครม.สัญจร ยกตัวอย่างว่าสมัยตนเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำ ถึงทำครั้งเดียวก็น่าจะเป็นเรื่องของ 3 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น

“ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของท่านนายกฯ ชวน หลีกภัย ตอนนั้นรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม เป็นเลขาฯ ครม. หรือเป็นรองเลขาฯ ครม. เริ่มมี ครม.สัญจรมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้วในรัฐบาลก่อนท่านนายกฯ ชวนชุดแรก แล้วก็จำได้ว่ามีการประเมินกันว่าค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการไป ครม.สัญจร กับสิ่งที่ได้กลับมาจริงๆ นั้นมันคุ้มค่ากันหรือไม่ แล้วก็กลายเป็นไปสร้างประเพณีอีกแบบหนึ่งด้วยว่า ครม.สัญจรไปที่ไหน อาจจะเป็นลักษณะของสังคมไทยว่า ต้องมีอะไรติดไม้ติดมือ ทำนองว่าพอไปอนุมัติงบประมาณกันให้อะไรต่างๆ ซึ่งจริงๆ ถ้าพูดถึงการบริหารจัดการที่ดีแล้ว ระบบงบประมาณมันไม่ควรจะมาขึ้นอยู่กับว่าจะไปที่ไหน ถึงไปจัดสรรงบประมาณให้ เพราะฉะนั้นการจัดลำดับความสำคัญ หรือการดูงบประมาณให้เป็นระบบ ถ้าไปถูกแรงกดดันตรงนี้มันก็กระทบ เพราะว่าพอไปจังหวัดไหนก็แน่นอน ก็ต้องมีคนมาเสนอโครงการต่างๆ แล้วถามว่าจังหวัดที่ไม่ได้ไป เพราะฉะนั้นก็ต้องระมัดระวังตรงนี้” นายอภิสิทธิ์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image