| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
หมายเหตุ – ความเห็นของนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคประชาธิปัตย์ และนางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯกทม.กรณีพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ร่วมรับผิดชอบในการทำหน้าที่ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ทั้งการทำงานและกิจกรรมทางการเมือง
พิชัย รัตตกุล
อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กรณีรอยร้าวระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะมีทางออกอย่างไรนั้น ผมคิดว่ายากเหลือเกิน เพราะเคยมีประสบการณ์กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หลายต่อหลายครั้ง โดยผมได้ให้คำแนะนำหรือคำบอกกล่าวไป แต่นายอภิสิทธิก็ไม่เคยปฏิบัติหรือเชื่อฟังคำแนะนำของผมเลย
ผมได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มากว่า 2 เดือนแล้ว เหตุเพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเก่าอย่างที่ผมได้รับการฝึกสอนมา
เมื่อคนจะลาออกนายอภิสิทธิ์ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคก็มาขอให้ผมอย่าลาออก แต่ผมมองว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะเป็นสมาชิกต่อไป
ผมจึงจากพรรคประชาธิปัตย์มาด้วยความเศร้า เพราะผมอยู่ประชาธิปัตย์มานานถึง 58 ปี มีความห่วงใยพรรคไม่หาย คิดว่าเราต้องปรับปรุงตัวเองให้มาก เพื่อเป็นหลักแก่บ้านเมือง ส่วนกรณีความไม่เข้าใจกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เห็นว่า ผมไม่ควรแสดงความคิดเห็นอะไร แม้จะยังเป็นสมาชิกก็คิดว่าคงพูดอะไรไม่ได้
แต่ถ้าให้พูดในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคและเคยเป็นอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่อทิศทางของพรรคในการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวนั้น คิดว่าในพรรคขณะนี้แยกออกเป็นหลายกลุ่มหลายก้อน ถ้าประชาธิปัตย์ไม่รวมเอาทั้งคนเก่าและคนใหม่มาผนึกกำลังกันจะไม่มีโอกาสชนะเลือกตั้งเลย
ผมคิดว่ากรณีคุณชายก็คงจะไม่ยอมเชื่อหัวหน้าพรรคแล้ว คือไม่ได้โกรธกันนะ แต่คงร่วมงานกันไม่ได้ เรื่องนี้ ผู้ใหญ่ในพรรค เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรค นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ฯลฯ ควรอย่างยิ่งที่จะเข้ามานั่งปรึกษาหารือกันเพื่อหาทางออก เอาจริงเอาจังเรียกมาประชุมกันสักครั้งหนึ่ง หรือเข้ามาเป็นคนกลางในการจบปัญหา ไม่ให้ลุกลามบานปลายกันออกไปมากกว่านี้
รัชดา ธนาดิเรก
ที่พรรคประกาศตัดขาดการทำงานกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์นั้น เห็นด้วยกับแนวทางของพรรค เพราะเราเป็นพรรคการเมือง จึงต้องแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
โดยจะต้องตอบคำถามจากปัญหาที่เกิดขึ้นให้สังคมได้รับความเข้าใจ แต่ในเมื่อพรรคไม่ได้รับความร่วมมือในการชี้แจงจาก กทม.เลย แนวทางของพรรคจึงต้องมีจุดยืนในการทำงาน แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไม่รับจุดยืนของพรรค ตอนนี้จึงจำเป็นที่จะต้องต่างคนต่างเดิน เพราะมีทิศทางการทำงานที่ไม่ตรงกัน พรรคประชาธิปัตย์ก็เสียใจทีไม่สามารถติดตามการตรวจสอบทุกเรื่องที่เกิดขึ้นใน กทม.ให้ประชาชนได้รับคำตอบได้
กรณีที่ผู้ว่าฯกทม.ยืนยันจะไม่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และรองหัวหน้าพรรค พร้อมทั้งจะเดินหน้าทำงานต่อไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นนั้น คงเป็นเรื่องส่วนตัวของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่จะตัดสินใจ เพราะเราไม่สามารถทำอะไรอย่างเป็นทางการได้ แต่พรรคต้องแสดงออกในจุดยืน เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ไม่ได้ไปกล่าวหาว่าใครกระทำผิด แต่จำเป็นต้องตรวจสอบความโปร่งใส
อยากให้มองว่าการกระทำของพรรคครั้งนี้ ดีกว่าการที่เราจะเพิกเฉยไม่ทำอะไร เพราะเราไม่ใช่พรรคการเมืองที่เห็นว่า พวกเดียวกันกระทำผิดแล้วยังเกี้ยเซียะ แม้เรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อพรรคและความรู้สึกของประชาชนบ้าง แต่ก็ดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่รับผิดชอบอะไรเลย
ผุสดี ตามไท
คณะผู้บริหาร กทม.ฝ่ายการเมือง ได้หารือร่วมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ซึ่งขณะนี้ติดภารกิจอยู่ในต่างประเทศ ขอยืนยันว่าคณะผู้บริหาร กทม.ฝ่ายการเมืองทุกคน ยินดีให้ความร่วมมือกับทุกคนที่มีข้อสงสัยและต้องการตรวจสอบการทำงานของ กทม.ตามกระบวนขั้นตอนทางกฎหมายและกลไกของรัฐที่มีอยู่โดยไม่ลังเล
ขอยืนยันว่าทุกคนยินดีเต็มใจรับข้อเสนอแนะจากประชาชนผ่านทุกช่องทาง เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนงานอื่นๆ จะเดินหน้าต่อไปตามนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.และจนถึงวันนี้ขอยืนยันว่าผู้ว่าฯกทม.และผู้บริหาร กทม.ทุกคนยังคงเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
มองว่าพรรคเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ต่างจากองค์กรอื่นที่มีข้อสะดุดบ้างเป็นครั้งคราว แต่อย่างน้อยที่สุดพรรคก็ถือเป็นสถาบันทางการเมืองที่สังคมต้องมี เพราะฉะนั้นเราทุกคนยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และผู้ว่าฯกทม.ก็ยังคงเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการลาออกแต่อย่างใด
สำหรับความไม่เข้าใจกับพรรค และนายอภิสิทธิ์ ก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการกันต่อไปในอนาคต แต่ผู้ว่าฯกทม.ยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป
สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่ทราบว่าเกิดจากเหตุใด สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปตามนั้น หากใครมีข้อสงสัยอะไร ผู้ว่าฯกทม.บอกตลอดว่าแจ้งมาโดยตรงได้เลย และสั่งให้ผู้บริหารทุกคนให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทุกเรื่องที่ต้องการให้มีการตรวจสอบ เมื่อกระบวนการเดินหน้าไปสุดที่ตรงไหนแล้ว ต้องยอมรับในการตัดสินนั้น
เมื่อก่อนเมื่อมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หรือประชุมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกวันอังคาร ได้เป็นตัวแทน กทม.รายงานและชี้แจงการทำงาน แต่ขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองไม่ปกติ จึงไม่มีเวทีหารือกับพรรคอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นธรรมชาติที่อาจมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันบ้าง ทางพรรคอาจไม่เข้าใจการทำงานของ กทม. อย่างดิฉันมีงานที่รับผิดชอบเยอะมาก จึงอาจไม่มีเวลาที่จะร่วมหารือ เมื่อร่วมนัดหมายอย่างไม่เป็นทางการ
ประสิทธิภาพและความโปร่งใส คือ หัวใจของการทำงานของผู้ว่าฯกทม.และคณะผู้บริหาร กทม.ทุกคน ดังนั้น หากมีเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ขอให้บอกมา แน่นอนว่าเรื่องนโยบายอาจไม่ได้ผลเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เช่น เรื่องโรงเรียน ดังนั้น หากทุกคนเจอเรื่องใดมาก็สามารถบอก กทม.ได้ เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาให้ลุล่วงไป
การทำงานอยู่ตรงนี้ภายใต้นโยบายของผู้ว่าฯกทม.ไม่ได้หนีไปจากอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ว่าจะเป็นสิทธิทางการศึกษาและสาธารณสุขขั้นพื้นฐานของประชาชน
กรณีที่พรรคตัดความรับผิดชอบกับ กทม.จะมีผลต่อการตัดสินใจในอนาคตทางการเมืองของทีมงานผู้ว่าฯกทม.หรือไม่นั้นดิฉันขอบอกว่า เป็นทั้งคนของพรรคและเป็นอดีต ส.ส.ของพรรคที่ถูกเสนอให้มาทำหน้าที่รองผู้ว่าฯกทม. และได้รับโอกาสจากผู้ว่าฯกทม. ถือว่าการทำงานตรงนี้มาด้วยเงื่อนไขต้องทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มความสามารถให้ดีที่สุด หากถามว่าคิดถึงความก้าวหน้าทางการเมืองหรือไม่ ส่วนตัวคิดไปทีละจุด ถ้าคิดว่าจะลาออกจากรองผู้ว่าฯกทม. เพื่อความก้าวหน้าทางการเมือง เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นแนวคิดที่ดีของนักการเมือง
ขอให้มั่นใจว่าคณะผู้บริหาร กทม.ชุดนี้ไม่เคยคิดถึงเรื่องการตั้งพรรคการเมืองใหม่เลย
องอาจ คล้ามไพบูลย์
กรณีที่นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาและโฆษกประจำตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่าการออกแถลงการณ์ไม่ใช่มติของพรรคนั้น ผมขอยืนยันว่าการออกแถลงการณ์เป็นเพียงการแสดงจุดยืนของพรรคเท่านั้น ที่กรรมการบริหารพรรคเห็นพ้องต้องกัน เป็นคำแถลงการณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เพราะพรรคไม่ได้จัดประชุม เพียงแต่เป็นการหารือร่วมกันของกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากที่ผ่านมาพรรคไม่สามารถติดต่อกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพื่อสอบถามกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าโครงการของ กทม.ส่อไปในทางทุจริตบางโครงการได้
เมื่อการทำงานไม่สอดคล้องกัน พรรคจึงจำเป็นต้องแสดงท่าทีที่ชัดเจน ขอยืนยันว่าไม่ได้ปัดความรับผิดชอบจากข้อกล่าวหาทุจริตของ กทม. เพราะอดีต ส.ส.ของพรรคที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลการทุจริต พรรคได้เรียกมาสอบถามและติดตามปัญหาตลอด อีกทั้งเรื่องการบริหารงานใน กทม. ถ้าเป็นเรื่องโครงการต่างๆ พรรคไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว
แถลงการณ์ดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการทำงานของอดีต ส.ส.กทม.ในพื้นที่ เชื่อว่าทำงานได้ตามปกติ และไม่จำเป็นต้องมีกลไกพิเศษขึ้นมาเพื่อแแก้ปัญหา หรือควบคุม ส.ส.ภายในพรรค ไม่ให้ซ้ำรอยอย่างที่เป็นอยู่
เรื่องนี้ไม่ถึงขั้นไปขับผู้ว่าฯกทม.ออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งพรรคพร้อมที่จะพูดคุยกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ทุกเมื่อ แต่หลังจากออกแถลงการณ์ไป ยังไม่มีฝั่ง กทม.ติดต่อขอเข้ามาพูดคุยกับพรรคเลย
