เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นเพื่อควบคุมดูแลเกี่ยวกับกรณีที่ต่างประเทศให้ความสนใจเตรียมมาถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับภารกิจการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่ ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่าคณะกรรมการดังกล่าวใช้ชื่อว่า “คณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์กรณีถ้ำหลวง” โดยให้นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ส่วนกรรมการให้นายวีระไปพิจารณาคัดเลือกเอง เมื่อรวบรวมรายชื่อเรียบร้อยแล้วรายงานให้ตนทราบต่อไป
นายวิษณุกล่าวว่า ทั้งนี้ คณะกรรมการดังกล่าวจะไม่ใหญ่มาก มีอำนาจหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุม กระตุ้นเตือนใครก็ตามเข้ามาทำหนังสารคดีหรืออะไรก็ตามต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เข้ามาใช้สถานที่จริงต้องขอกรมอุทยานแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถ้าใช้บุคลากรที่ทำหน้าที่จริงต้องขอผู้บังคับบัญชา รวมถึงถ้าไปขอข้อมูลเด็กๆ ก็สามารถทำได้ แต่สิ่งที่เรากลัวคือ จะไปจับเด็กผูกมัดสัญญาลักษณะสงวนลิขสิทธิ์ ต่อไปจะพูดไปไม่ได้ ต้องผ่านเอเยนต์ ถ้าลักษณะนี้ทำไม่ได้ เราจึงอยากให้คำแนะนำให้ระมัดระวัง เพราะเคยเกิดเช่นนี้ในต่างประเทศมาแล้ว อย่างที่ประเทศชิลี มีการจับทำเซ็นสัญญา
นายวิษณุกล่าวว่า กรรมการชุดนี้ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์ข้อมูล หากใครต้องการสอบถาม รวมถึงทำหน้าที่ประสาน โดยขณะนี้มีผู้สนใจติดต่อเข้ามาแล้ว 13 ราย ทั้งถ่ายทำในรูปแบบภาพยนตร์ เขียนหนังสือสารคดี นิยาย ละคร ซีรีส์ และเกมส์แอนิเมชั่น นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ทำบันทึกจดหมายเหตุอย่างเป็นทางการ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมระบุจดหมายเหตุจะทำทั้งภาษาไทย อังกฤษ และจีน จะทำอย่างสมบูรณ์ ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร และเตรียมทำนิทรรศการภาพถ่าย เพื่อแสดงหมุนเวียน อาจไปจัดแสดงทั่วโลกก็ได้ นี้คือภารกิจทั้งหมดที่ไม่ใช่การควบคุม แต่เป็นศูนย์กลางการจัดระเบียบ ไม่ให้สื่อไทยกับสื่อต่างประเทศกระทบกระทั่งกัน รวมถึงเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องให้กับเด็ก ผู้ปกครอง และชาวต่างชาติ ส่วนรัฐบาลสนใจจะจัดสร้างเองหรือไม่นั้น ตรงนี้ต้องให้กระทรวงวัฒนธรรมไปพิจารณา เพราะการจัดทำมีหลายรูปแบบ เช่น รัฐบาลทำเองโดยว่าจ้างให้เอกชนจัดทำทั้งหมด หรือทำบางส่วน เพราะเรามีกองทุนสื่อสร้างสรรค์อยู่แล้ว โดยให้งบประมาณให้ไปทำ
