สถานีคิดเลขที่12 : ก๊ก และ กั๊ก : โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

คําประกาศ

“พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เป็นรัฐบาลแน่นอนหลังเลือกตั้ง”

ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้ง รปช.นั้น

อ่านไม่ยาก

Advertisement

เมื่อเห็น รปช.ชักจะแผ่วๆ ก็เป็นธรรมดาต้องออกมาเสริมความเชื่อมั่นเสียหน่อยว่า ถึงอย่างไร รปช.ก็ได้ร่วมรัฐบาลแน่

ดังนั้น ใครที่คิดจะเข้าร่วม โปรดอย่าลังเล อนาคตสดใสรออยู่

เหตุที่ต้องออกมากระตุ้น ส่วนหนึ่งก็เนื่องจาก “กลุ่มสามมิตร” ที่แม้จะเดินสาย “แนวร่วม” เดียวกัน

Advertisement

คือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แต่ทั้ง รปช. และ กลุ่มสามมิตร ต่างก็ถือเป็นคู่แข่งทางการเมืองกันและกันด้วย

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าการเป็นหมายเลข 1 ในฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ มีความหมายมากกว่าเป็นหมายเลข 2 มาก

เพราะปัจจัยเกื้อหนุนและสิ่งตอบแทนที่จะได้รับกลับคืนย่อมแตกต่างกัน

ซึ่งในนาทีนี้ ต้องยอมรับว่ากลุ่มสามมิตรมาแรง

แรงทั้งการดูดนักการเมือง

แรงทั้งการเข้าไปเล่นเกมมวลชน ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง แม้กระทั่ง กปปส. ปีกของพุทธะอิสระ

โดนกลุ่มสามมิตรโฉบเข้าไปดึงเป็นพวกตัดหน้ากลุ่ม กปปส.ของนายสุเทพมาแล้ว

และล่าสุด กลุ่มสามมิตรก็เข้าไปเล่นกับกลุ่มเกษตรกร เริ่มจากชาวนา ตอนนี้ลงไปแตะกลุ่มชาวไร่ยาสูบอีก

ถือว่าเอื้อมมือเข้าไปยังกลุ่มมวลชนต่างๆ อย่างถ้วนหน้า

ทำให้กลุ่มสามมิตรมีน้ำมีนวลในแง่อำนาจต่อรอง ไม่ใช่เฉพาะต่อพวกเขา

หากแต่รวมถึง “พวกเราด้วย”

นี่กระมัง ถึงทำให้มีเสียงกระซิบลอยลมมาว่า กลุ่มสามมิตรอาจจะไม่เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

แต่จะไปสร้าง “รัง” ของตัวเองแทน

เสียงกระซิบนี้ สะท้อนภาวะ “การเมืองมิหน่ายเล่ห์” ได้เป็นอย่างดี

เพราะอย่างที่บอก ตอนนี้ “การต่อรอง” ดำรงอย่างเข้มข้นในสนามการเมือง

เมื่อกลุ่มสามมิตรจุดไฟติด ดึงดูดให้ “แมลงการเมือง” บินมาเล่นไฟ

กลุ่มสามมิตรคงไม่นั่งภูมิใจกับผลงานอย่างเดียว หากแต่ต้องมีสิ่ง “ตอบแทน” จากการจุดไฟติดนี้ด้วย

ดังนั้น การเข้าร่วมกับพรรค พปชร.คงไม่ใช่ในฐานะพรรคตัวประกอบ

หรือเป็นฝ่ายที่นอบน้อมเข้าไปหาฝ่าย “สีเขียว”

หากแต่มาในฐานะผู้ที่ชี้เป็นชี้ตายทางการเมือง ว่าจะเอากับเขาหรือไม่

ถ้าเอาก็ย่อมต้องมีการเจรจาในระดับเท่าเทียมกัน

มิใช่ลูกน้อง หรือลูกไล่

นี่เอง จึงอาจเป็นที่มาของกระแสข่าว กลุ่มสามมิตรอาจจะไม่เข้าร่วมพรรค พปชร.

เพื่อที่จะให้มีการต่อรองอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น

แต่กระนั้น “เขี้ยวโง้ง” ทางการเมือง อย่าง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รู้ดีว่าข่าวชิ้นนี้มีทั้งได้และเสีย

จึงรีบลบความแหลมคมลง

ด้วยการปฏิเสธกระแสข่าวกลุ่มสามมิตรจะแยกไปตั้งพรรคอื่นที่ไม่ใช่ พปชร.

“ไม่มี ไม่ใช่เรื่องจริง เรื่องไปตั้งพรรคอื่นไม่ต้องคิด ส่วนจะอยู่ พปชร.หรือไม่นั้น ถึงเวลาจะทราบเอง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่สะเด็ดน้ำ พูดไปจะเกิดความวุ่นวาย”

อย่างไรก็ตาม ถึงจะปฏิเสธ

แต่ก็ “กั๊ก” ไว้ในที

นั่นคือยังไม่ถึงเวลา “ฟันธง” คงต้องผ่านการต่อรองและสร้างราคาต่อไป

ภาวะเช่นนี้ อาจทำให้ “สีเขียว” หงุดหงิด ที่ไม่อาจควบคุมอะไรได้เบ็ดเสร็จ

แต่การเมืองก็เป็นเช่นนี้

มากด้วย “ก๊ก” และ “กั๊ก”

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image