บทนำมติชน : ไทยไม่เป็นปกติ

ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมการควบคุมตัวนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในเวลากลางคืน เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมานั้น เป็นการบุกเข้าควบคุมตัวที่เมื่อดูจากคลิปทางสื่อออนไลน์แล้ว ทำให้รู้สึกหวาดหวั่น เนื่องจากการปฏิบัติการดังกล่าวกระทำในเวลากลางคืน ใช้รถปฏิบัติการ 2 คัน มีผู้ปฏิบัติการ 8 คน แต่งเครื่องแบบชุดทหาร และดำเนินการควบคุมตัวไปโดยไม่แจ้งให้ใครทราบว่าเป็นการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่

การปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากนายสิรวิชญ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไปรับประทานอาหารกับเพื่อนสนิทและเดินอยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย ทั้งนี้นายสิรวิชญ์เปิดเผยผ่านทางคลิปในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่านำตัวนายสิรวิชญ์ไปส่งฟ้องศาลทหารโทษฐานขัดหมายเรียกในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. กรณีที่นัดหมายนักศึกษาและประชาชนเดินทางโดยรถไฟไปยังอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์

ภายในคลิปที่อัดเสียงและภาพ นายสิรวิชญ์ระบุว่า ระหว่างการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ใช้ถุงไอ้โม่งคลุมหัว พร้อมกันนั้นได้ทำร้ายร่างกายด้วย และได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไว้แล้ว และในช่วงเย็นหลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งฝากขังต่อศาลทหาร ปรากฏว่าศาลทหารกรุงเทพได้พิจารณาคำร้องของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจรถไฟธนบุรี แล้วเห็นว่าเจ้าหน้าที่มีเหตุผลไม่เพียงพอที่จะขังนักศึกษาผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหา เพราะนายสิรวิชญ์ไม่มีเหตุอันควรที่จะเชื่อว่าจะหลบหนีหรือไปใช้อำนาจข่มขู่ผู้ใด ฯลฯ จึงสั่งให้ยกคำร้อง

การควบคุมตัวนายสิรวิชญ์ดังกล่าวทำให้สหรัฐอเมริกาแสดงความกังวลต่อเสรีภาพ ตอกย้ำความไม่เป็นปกติในประเทศไทย ทั้งๆ ที่ไทยต้องการให้ทั่วโลกมองว่าประเทศนี้ไม่ผิดปกติ ยังน่าท่องเที่ยว น่าคบ น่าค้าขายด้วย แม้จะมีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มีกฎหมายที่ไม่ปกติ แต่ก็ควรจะมีการปฏิบัติตามกฎหมายเฉกเช่นสากลกระทำกัน หากยังคงใช้วิธีปฏิบัติที่ไม่เป็นปกติ โดยใช้กฎหมายที่บังคับในสถานการณ์อันไม่ปกติ แล้วจะทำให้ทั่วโลกมองไทยเป็นประเทศปกติได้เช่นไร

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image