เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการ คสช. กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานว่าด้วยประชาธิปไตย, สิทธิมนุษยชนและแรงงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานการตรวจสอบสภาวะสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ รวม 199 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทยประจำปี 2558 ว่า การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเป็นการพูดในภาพรวม อีกทั้งไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเทศไทยเป็นพิเศษนัก
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ทาง คสช.ก็ขอแสดงความขอบคุณที่เปิดเผยข้อมูลให้ ทั้งนี้ การแก้ปัญหาภายใต้บริบทประเทศไทย คสช.พยายามเร่งแก้ปัญหาต่างๆ อยู่ โดยที่มิได้เพิกเฉยแต่ประการใดเลย และขอย้ำว่าจะไม่สร้างปัญหาขึ้นมาใหม่ให้เกิดเป็นข้อกังวลใจ ส่วนประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น ตนขอยืนยันว่าคำสั่ง คสช. ฉบับที่ที่ 13/2559 ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทําลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีวัตถุประสงค์ให้การปฏิบัติงานต่างๆ เกิดการบูรณาการร่วมกัน และให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวต่อว่า ในห้วงที่ผ่านมาการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวยังไม่มีประชาชนร้องเรียนใดๆ เข้ามาเลยว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไปละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆ ทั้งสิ้น ในทางกลับกัน เราได้รับรายงานว่าการปฏิบัติงานต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ พร้อมทั้งยืนยันว่า คสช.จะปฏิบัติงานตามกรอบกฎหมายที่เป็นธรรม อีกทั้งย้ำว่าเจ้าหน้าที่มีธรรมาภิบาล ส่วนจะผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวหรือไม่นั้น ตนคิดว่าในช่วงเวลานี้ คสช.คงจำเป็นต้องใช้มาตรการต่างๆ ไว้ก่อน ขณะเดียวกันการปฏิบัติหน้าที่ก็จะไม่ไปละเมิดสิทธิมนุษยชนใคร และต้องไม่ไปสร้างปัญหาใหม่เพิ่มขึ้น
เมื่อถามว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการให้อำนาจเจ้าหน้าที่มากเกินไปหรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายนี้จะเป็นไปตามเฉพาะกรณี เราจะไม่ไปตรวจค้นโดยที่ไม่ขอหมายศาล ซึ่ง คสช.จะบังคับใช้กฎหมายปกติก่อนในเบื้องต้น และดำเนินการร่วมกันหลายฝ่าย เว้นเพียงแต่กรณีพิเศษเฉพาะรายเท่านั้นที่อาจดำเนินการโดยที่ไม่ขอหมายศาล
“การที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยรายงานดังกล่าวออกมานั้น ทาง คสช.จำเป็นต้องชี้แจงอยู่เป็นระยะ เพราะว่าบางทีอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่ง คสช.สามารถอธิบายชี้แจงเหตุผลได้ตลอดเวลา” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว
เมื่อถามต่อว่า การที่ คสช.ยังคงเรียกบุคคลเห็นต่างทางการเมืองมาพูดคุยทำความเข้าใจถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า “ไม่ใช่ครับ ผมขอยืนยันถึงหลักกฎหมายที่เราดำเนินการจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และย้ำว่าจะไม่ไปละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆ ทั้งสิ้น”
