กกต. เลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งครบ 77 จว.แล้ว ไม่รอกกต.ใหม่ เพื่อให้ทันเลือกตั้ง

กกต. เลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งครบ 77 จว.แล้ว ไม่รอกกต.ใหม่ ปธ. แจง เพื่อให้ทันการเลือกตั้ง ปัดเร่งพิจารณาวางคนของตัวเอง

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมกกต. วานนี้ (31 กรกฎาคม) ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งการพิจารณาคัดเลือกใช้เวลานาน เพราะต้องดูในหลายเรื่อง เช่น มีประสบการณ์ผ่านงานเลือกตั้งมาหรือไม่ เนื่องจากต้องไปควบคุมดูแลการทำงานของกรรมการประจำหน่วย และหากพบว่ามีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ก็ต้องมีการรายงานให้กับ กกต.ทราบ ยืนยันว่าไม่ได้เร่งดำเนินการพิจารณา ทั้งที่กำลังจะมี กกต.ชุดใหม่เข้าทำหน้าที่ เพราะเราเห็นว่าถ้าจะมีการเลือกตั้ง ในต้นปีหน้า หากรอให้ชุดใหม่มาคัดสรรอาจจะดำเนินการไม่ทัน เนื่องจากตามกระบวนการ เมื่อได้รายชื่อแล้วจะต้องมีการส่งไปยังจังหวัด เพื่อปิดประกาศรายชื่อ เปิดโอกาสให้มีกาคัดค้าน ถ้าพบว่ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสม เช่น ไม่เป็นกลางทางการเมือง ฝักใฝ่การเมือง มีคดี ต้องโทษที่อาจไม่เหมาะสมกับการที่จะเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง ก็ต้องมีการคัดเลือกใหม่ แต่หากไม่มีผู้คัดค้าน กกต.ก็ต้องทำการอบรม ให้มีความรู้ความเข้าใจ เรื่องข้อกฎหมาย และการปฎิบัติต่างๆ ไม่อยากให้มองว่า เร่งพิจารณาเพราะต้องการวางคนของตนเอง เพราะคนจะเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งต้องสมัครผ่านจังหวัดต่างๆ และต้องเป็นคนที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้นๆ

“เราคงไม่สามารถจะมีคนของตัวเองที่มีภูมิลำเนาใน 77 จังหวัดได้ ในความคิดเราต้องทำให้ดี เราจะทำไม่ดีไปเพื่ออะไร ก่อนจะพ้นจากหน้าที่เราต้องทำความดี ไม่ใช่เราเลิกจากตรงนี้แล้ว สุดท้ายต้องไปอยู่ในที่จำกัด เราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด อย่าคิดว่าเขาปลดเราแล้ว เราก็นั่งกินเงินหลวงฟรีไปวันๆ มันไม่ใช่เรื่อง ต้องทำงานคุ้มค่า อันไหนเป็นประโยชน์บ้านเมืองเราก็ต้องทำ”นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่อยากให้คิดว่า การที่เลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งไว้แล้ว ทำให้นักการเมืองไปซื้อตัวไว้ล่วงหน้า อย่าไปมองอะไรในแง่ร้าย ถ้าเขาสมัครเข้ามา แล้วยอมที่จะขายตัวก็เป็นเรื่องของเขา เราต้องมองโลกในแง่บวก อย่ามองในแง่ร้าย ต้องมองว่าเขามาสมัคร เพราะอยากทำความดี แต่โดยรวมแล้วผู้ตรวจการเลือกตั้งจะใช้งบประมาณมากว่า กกต.ประจำจังหวัด แต่เมื่อกฎหมายกำหนดมาเช่นนี้เราก็ต้องปฎิบัติ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ในการประชุม กกต.เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ประชุมได้พิจารณาเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัดแล้ว จากบัญชีที่แต่ละจังหวัดคัดเลือกส่งมาจังหวัดละ 16 คน เพื่อให้ กกต.กลางพิจารณาเลือกให้เหลือจังหวัดละ 8 คน รวม 616 คน โดยมีรายงานว่าการพิจารณาของ กกต. เป็นการลงคะแนน ในการประชุมลับที่มีเพียง กกต. 4 คน และลงคะแนนลับเป็นรายจังหวัด ซึ่งหลังจากนี้ทางสำนักงาน ก็จะจัดทำบัญชีผู้ที่ได้รับการคัดเลือก และส่งไปยังสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัด 77 แห่ง เพื่อประกาศเป็นเวลา 15 วัน ให้ประชาชนได้รับทราบและสามารถให้ข้อมูล หากพบว่าผู้ที่ได้รับการคัดเลือกมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่เหมาะที่จะมาเป็นหูเป็นตาในการตรวจสอบ ติดตามการเลือกตั้ง หากไม่มีการคัดค้าน ทาง กกต.ก็จะประกาศขึ้นบัญชีเป็นเวลา 5 ปี ให้บุคคลทั้งหมดเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง แต่หากมีบุคคลใดถูกร้องเรียนและพบว่ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ก็จะต้องดำเนินการคัดเลือกใหม่

ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลาที่มีเลือกตั้งเกิดขึ้น กกต.กลางจะใช้วิธีการจับฉลาก เพื่อเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งจำนวน 2 คน จาก 8 คน เป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดนั้นๆ และอีก 6 คน ก็จะจับฉลากเลือกจากผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ขึ้นทะเบียนไว้ จากกลุ่มจังหวัดเดียวกัน มาร่วมเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งของจังหวัดนั้น ๆ โดยจะมีระยะเวลาการทำงานในช่วงที่มีการเลือกตั้ง ประมาณ 60 วัน โดยจะรับค่าตอบแทน 5 หมื่นบาทต่อเดือน ค่าเบี้ยเลี้ยง 400 บาทต่อวัน ค่าที่พัก 1,500 บาทต่อวัน และค่าพาหนะ 1,000 บาทต่อวัน

อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกดังกล่าวถูกต้องข้อสังเกตถึงความเหมาะสม เพราะ กกต.ชุดปัจจุบันทราบดีอยู่แล้ว ว่ามี 5 ว่าที่ กกต.แล้ว รวมทั้งก่อนหน้านี้ กกต.ก็เคยวางแนวปฎิบัติไว้ว่าจะดำเนินการเพียงขั้นตอนการรับสมัคร แล้วให้ กกต.ชุดใหม่เป็นผู้คัดเลือก ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า ผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เกษียญอายุจากสำนักงาน กกต. และบางคนเป็นผู้ตรวจที่กำลังจะเกษียญอายุ รวมทั้งบุคคลที่รู้จักใกล้ชิดกับ กกต.ทั้ง 4 คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image